ความต้องการไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น โครงสร้างพื้นฐานที่ทรุดโทรม และราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก ได้จุดชนวนให้เกิดการแรลลี่สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ ราคาถ่านหินของออสเตรเลี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับตลาดเอเชียขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 106% ในปีนี้ เป็นมากกว่า 166 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน ตามการประเมินรายสัปดาห์ล่าสุดโดย Argus
ดัชนีรายสัปดาห์ของนิวคาสเซิลซึ่งอยู่ที่ระดับต่ำสุดในปี 2563 ที่ 46.18 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนกันยายน ดูเหมือนว่าจะปิดที่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 195.20 ดอลลาร์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ดัชนี Richards Bay ที่เทียบเท่ากับแอฟริกาใต้เมื่อสิ้นสุดสัปดาห์จนถึง 13 ส.ค. ที่ 137.06 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน เพิ่มขึ้นมากกว่า 55% ในปีนี้
เบรนท์ Benchmark เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ไม่กี่อย่างที่บันทึกการเพิ่มขึ้นที่เทียบเคียงได้ในปีนี้ โดยสัญญาน้ำมันเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบเป็นรายปี นักวิเคราะห์ด้านพลังงานอ้างเหตุผลหลายประการสำหรับการแรลลี่ของราคาถ่านหิน อาทิ ความต้องการพลังงานที่ฟื้นตัวในจีน การห้ามนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียอย่างไม่เป็นทางการของปักกิ่ง การหยุดชะงักของอุปทานในออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และโคลัมเบีย และราคาก๊าซโลกที่สูงขึ้น นักวิเคราะห์จาก Argus กล่าวว่ายุโรปมีการจัดเก็บก๊าซในระดับต่ำอย่างไม่เหมาะสม การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวที่อ่อนแอ และการนำเข้าท่อส่งก๊าซขนาดเล็กจากรัสเซีย ใกล้เคียงกับราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าถ่านหิน ส่งผลให้มีแรงจูงใจเพิ่มขึ้นในการเผาไหม้ถ่านหินเพื่อการผลิตไฟฟ้า
แหล่งข่าว Soaring demand for the world’s least-liked commodity sees thermal coal prices jump 106% this year โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand
