ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี หลังจากที่สหรัฐจะกลับมาคว่ำบาตรน้ำมันกับเวเนซุเอลาอีกครั้ง ในขณะที่สหภาพยุโรปพูดถึงมาตรการควบคุมอิหร่านครั้งใหม่ ราคาฟิวเจอร์สน้ำมัน Brent เพิ่มขึ้น 10 เซนต์หรือ 0.11% อยู่ที่ 87.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาฟิวเจอร์สน้ำมัน WTI ซื้อขายสูงขึ้น 2 เซนต์ที่ 82.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเกณฑ์มาตรฐานทั้งสองลดลง 3% ในช่วงก่อนหน้าเนื่องจากความกังวลด้านอุปสงค์
สหรัฐระบุว่าจะไม่ต่ออายุใบอนุญาตที่จะหมดอายุในวันพฤหัสบดี ซึ่งได้ผ่อนคลายการคว่ำบาตรน้ำมันของเวเนซุเอลา โดยจะเปลี่ยนมาใช้มาตรการลงโทษอีกครั้งเพื่อตอบสนองต่อความล้มเหลวของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ในการปฏิบัติตามข้อผูกพันในการเลือกตั้ง เวเนซุเอลาส่งออก 600,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) ในไตรมาสแรก โดย 165,000 บาร์เรลต่อวันถูกกำหนดส่งให้สหรัฐอเมริกา ฝ่ายวิจัยของ ANZ เสริมว่าเนื่องจากปริมาณอยู่ในระดับปานกลางจึงมีผลกระทบเล็กน้อย ความไม่แน่นอนยังคงอยู่กับวิธีที่อิสราเอลอาจตอบโต้อิหร่านหลังจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของเตหะรานต่ออิสราเอล เพื่อป้องกันความขัดแย้งผู้นำสหภาพยุโรปจึงตัดสินใจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อวันพุธ
สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาจะลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับความช่วยเหลือสำหรับยูเครน อิสราเอล และอินโดแปซิฟิกในวันเสาร์นี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงมูลค่ากว่า 95,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง 61,000 ล้านดอลลาร์เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งในยูเครน การสำรวจของ Federal Reserve เผยให้เห็นเมื่อวันพุธว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวเล็กน้อยตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนเมษายน และบริษัทต่างๆ ส่งสัญญาณว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะทรงตัว แนวโน้มล่าสุดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้ธนาคารกลางไม่สามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ ตามการประมาณการของเจพี มอร์แกน ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกจนถึงเดือนเมษายนอยู่ที่เฉลี่ย 101 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือต่ำกว่าการคาดการณ์ถึง 200,000 บาร์เรลต่อวัน
แหล่งข่าว Oil inches up after U.S. reimposes Venezuela oil sanctions โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
