ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันอังคาร หลังจากแข็งค่ามากกว่า 1 ดอลลาร์จากความคาดหวังว่าอุปทานจะตึงตัวมากขึ้น ซึ่งได้แรงหนุนจากการลดการผลิตของรัสเซียและการโจมตีโรงกลั่นของรัสเซีย น้ำมัน Brent เพิ่มขึ้น 23 เซนต์เป็น 86.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาฟิวเจอร์ส WTI ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 28 เซนต์มาอยู่ที่ 82.23 ดอลลาร์ น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากปัญหาด้านอุปทานและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง สัญญาทั้งสองฉบับมีราคาสูงขึ้น 1.32 ดอลลาร์
รัสเซียแจ้งให้บริษัทน้ำมันลดการผลิตลงเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ที่ 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) รัสเซียผลิตได้ประมาณ 9.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะเดียวกันการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียโดยชาวยูเครนยังคงดำเนินต่อไป โรงกลั่น Kuibyshev ของรัสเซียต้องปิดกำลังการผลิตครึ่งหนึ่งหลังจากเกิดเพลิงไหม้ที่นั่นเมื่อเช้าวันเสาร์ จากสัญญาณของอุปทานที่ตึงตัวยิ่งขึ้น Macquarie คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของโรงกลั่นในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์หน้า เทียบกับอุปทานในประเทศที่ลดลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน
เมื่อวันจันทร์ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส หลังจากที่สหรัฐงดออกเสียง แต่นักวิเคราะห์ไม่มั่นใจว่าการหยุดยิงจะหยุดการโจมตีของกลุ่มฮูตีในเส้นทางเดินเรือในทะเลแดงได้ หลังจากการลงคะแนนเสียง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ยกเลิกการเยือนสหรัฐเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการโจมตีของอิสราเอลต่อเมืองราฟาห์ในฉนวนกาซา แม้ว่าสหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนของตน แต่การทะเลาะวิวาทกันทำให้เกิดคำถามว่าสหรัฐจะจำกัดความช่วยเหลือทางทหารต่ออิสราเอลหรือไม่
แหล่งข่าว Oil prices extend upward momentum on expectations of tighter supply โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
