น้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ต่อเนื่องจากช่วงก่อนสุดสัปดาห์ น้ำมันดิบของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากอุปทานทั่วโลกยังคงตึงตัวท่ามกลางอุปสงค์ที่แข็งแกร่งทั่วโลก
เบรนท์พุ่งขึ้น 26 เซนต์หรือ 0.3% สู่ 85.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาซื้อขายอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 86.10 ดอลลาร์ที่แตะระดับสูงสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว WTI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 48 เซนต์หรือ 0.6% สู่ 84.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้น 1.5% ในวันศุกร์ แตะระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ที่ 84.28 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ในเซสชั่น
โทชิทากะ ทาซาวะ นักวิเคราะห์จาก Fujitomi Securities Co Ltd กล่าวว่า "ความเชื่อมั่นในเชิงลบยังคงหนุนราคาน้ำมัน เนื่องจากอุปทานทั่วโลกยังคงตึงตัวท่ามกลางอุปสงค์ที่ฟื้นตัว"
ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนถ่านหินและก๊าซในจีน อินเดีย และยุโรป กระตุ้นให้มีการเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นน้ำดีเซลและน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทน
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจก 'สุทธิเป็นศูนย์' ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตโดยการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลภายในปี 2060 - 10 ปี
ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทพลังงานในสหรัฐได้ลดแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดสัปดาห์แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น
แหล่งข่าว Oil prices on the march again in tight market; U.S. crude at 7-yr high โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
