ย้อนกลับไปในอดีต ช่วงเวลาที่เกิดสงครามหรือเกิดภาวะความไม่สงบขึ้น ราคาทองคำมักจะเป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หรือ "Safe Haven" เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง และสามารถใช้เป็นหลักประกันทางการเงินได้ ซึ่งนอกจากราคาทองคำแล้ว ราคาน้ำมันก็มักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จากความกังวลในเรื่องของการขาดแคลนพลังงาน อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันที่เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน พบว่า มีสินทรัพย์อื่นๆ ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากทองคำและน้ำมัน
หุ้นกลุ่ม Cybersecurity ปรับตัวเพิ่ม 13% นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2022 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2022) หลังจากที่รัสเซียได้มีการเข้าโจมตีทางไซเบอร์ในเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลและธนาคารของยูเครน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่ารัสเซียจะทำการตอบโต้ประเทศที่ทำการคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยเช่นกัน ส่งผลทำให้ความต้องการของ Cybersecurity เพิ่มสูงขึ้น หนุนราคาหุ้นกลุ่ม Cybersecurity ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากราคาหุ้นกลุ่ม Cybersecurity จะได้ประโยชน์จากการเข้าโจมตีทางไซเบอร์ของรัสเซียแล้ว ยังได้แรงหนุนจากข่าวที่บริษัทเอกชนหลายบริษัท ถูกโจมตีทางไซเบอร์อย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อาทิ บริษัท Supplier ของ Toyota ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ส่งผลให้โรงงาน 14 แห่งของ Toyota ต้องหยุดการผลิตชั่วคราว และบริษัท Nvidia ที่ถูกปล่อยข้อมูลพนักงานและข้อมูลบริษัท เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า นอกจากการเข้าโจมตีทางกำลังทหาร ในยุคปัจจุบันการโจมตีทางไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมือรูปแบบใหม่ในการทำสงครามรวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการก่อความไม่สงบ ทำให้หลายๆ องค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cybersecurity มากขึ้น
หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด
หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11% นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2022 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2022) โดยหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาดปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเรื่องการขาดแคลนพลังงาน อาทิ แก๊สธรรมชาติ รวมถึงราคาลิเทียมที่ใช้สำหรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องบริษัท Renewable Energy Group ที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่นหลังจากที่ถูกบริษัท Chevron เข้าซื้อกิจการ
Cryptocurrency
ราคา Cryptocurrency อย่าง Bitcoin ปรับตัว 11% (ข้อมูลวันที่ 3 มีนาคม 2022) จากการที่นานาประเทศทั่วโลกหันมาคว่ำบาตรทางการเงินรัสเซีย โดยได้มีการตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) ซึ่งเป็นเครือข่ายแจ้งข้อมูลเมื่อมีการส่งและรับการชำระเงิน ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินเป็นไปอย่างราบรื่น (ระบบ SWIFT ไม่ได้ทำหน้าที่รับจ่ายเงิน) ซึ่งทำให้รัสเซียทำธุรกรรมทำการเงินระหว่างประเทศยากลำบากมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้รัสเซียต้องหันมาใช้ Cryptocurrency ในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ ทางฝั่งยูเครนก็ได้มีการเปิดรับบริจาคผ่าน Cryptocurrency อีกด้วย โดยพบว่าปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ในสกุลเงิน Ruble และ Ukrainian Hryvnia ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
แหล่งข่าว ลงทุนอย่างไรใน "ภาวะสงคราม" ?, bangkokbiznews, 07 มี.ค. 2565