หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด GPSC ปิด 81.50 บาท บวก 3.50 บาท, GULF ปิด 36 บาท บวก 2.25 บาท, 7UP ปิดที่ 1.78 บาท ลบ 0.76 บาท, SNNP ปิด 12.80 บาท บวก 1.00 บาท, PTT ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง -0.25 บาท
บล.เอเซียพลัส แนะกลยุทธ์ลงทุนเน้นหุ้นงบ Q2 เด่นสวนกระแส COVID-19 อีกทั้งจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นหลัก ชอบ MCS - JMART และเลือกหุ้นส่งออกที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าแรง ชอบ NER ซึ่งหุ้นทั้ง 3 บริษัทมีสัดส่วนการถือครองของต่างชาติอยู่ในระดับต่ำ จึงปลอดภัยระดับหนึ่งหากมีแรงเทขายของ Flow ต่างชาติ
เอเซียพลัสยังได้ออกบทวิเคราะห์ โฟกัสหุ้น ADVANC ชี้ กำไร 2Q64 ทำได้ดี โต 6%qoq ตามคาด แม้มีภาระคลื่น 5G 700 MHz และการลงทุน 5G แต่ได้ผลบวกจากการควบคุมต้นทุนต่างๆให้เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ COVID ยังระบาด และรายการพิเศษบางส่วนบวกกับอานิสงส์ความเป็นผู้นำธุรกิจมือถือช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ บรรเทาผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลงและการเติบโตของธุรกิจรอง อาทิ อินเตอร์เน็ตบ้าน ที่ขึ้นมาประคองรายได้
คาดว่าผลกระทบจากการระบาดรอบใหม่ที่ยังยืดเยื้อจะกระทบกำไร 3Q64 อ่อนตัวเล็กน้อย โดยประเมินผลกระทบ Lockdown จำกัดกว่าปีก่อน หนุนจากการเป็นผู้นำ 5G และการมีบริการเสริมจากพันธมิตรและภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น คาดช่วยกำไรใน 4Q64 หนุนทั้งปีประคองทรงตัวได้ และกลับมาเติบโตอีกครั้งนับจากปี 65 ซึ่งยังไม่รวมถึง Synergy กับ GULF คงแนะนำซื้อ
อีกตัวหุ้น CRC คาด 2Q64 เป็นผลขาดทุน 99 ล้านบาท ลดลงจากช่วง 2Q63 ที่ขาดทุน 2.6 พันล้านบาท จากผลบวกฐานต่ำในช่วง 2Q63 คาดการณ์กำไร 1H64 ที่ 303 ล้านบาท เพียง 10% ของประมาณการปี 64 ประกอบกับงวด 3Q64 ที่คาดหวังฟื้นตัวยาก จากผลกระทบการระบาดรอบใหม่เป็น Downside ต่อประมาณการปัจจุบัน
ทั้งนี้ จากการทำ Scenarios Analysis กรณี Base Case มาตรการ Lockdown และสิ้นสุด ส.ค.64 จะกระทบต่อกำไรปี 64 ให้ลดลงเป็นขาดทุน 86 ล้านบาท และ FV ลดลงเป็น 34.4 บาท ขณะที่กรณีเลวร้าย Lockdown ทั่วประเทศเดือน ส.ค.-ก.ย.64 จะกดดันกำไรขาดทุน 1.1 พันล้านบาท และ FV ลดลงเป็น 33.7 บาท
ทั้งนี้ กรณีเลวร้ายสุด Lockdown ทั่วประเทศ ยังเห็น Upside เชื่อว่าผลกระทบสะท้อนในราคาหุ้นไประดับหนึ่งแล้ว แนะนำซื้อ แต่เน้นสะสมจังหวะหุ้นอ่อนตัว
แหล่งข่าว ลุ้นหุ้นกำไรไตรมาส 2 เด่น!!, ไทยรัฐ, 6 ส.ค. 2564