ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ต.ค.64 ปิดที่ 1,643.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.58 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 80,254.45 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,773.87 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 145 บาท บวก 2.50 บาท, PTTGC ปิด 66.75 บาท บวก 2 บาท, DELTA ปิด 454 บาท บวก 2 บาท, HANA ปิด 77.75 บาท บวก 5 บาท, BANPU ปิด 13 บาท ลบ 0.10 บาท
บล.เอเซียพลัสออกบทวิเคราะห์ ระบุประชุม ครม. อังคารนี้ ลุ้น “คนละครึ่งเฟส 4” หลังจากภาครัฐเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการจำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจต่างๆไปในระดับหนึ่งแล้วซึ่งจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวกลับมาได้บ้าง แต่อาจยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เศรษฐกิจกลับเข้าใกล้เคียงกับภาวะปกติ ส่งผลให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี 64
ด้วยเหตุนี้ เอเซียพลัสเชื่อว่าภาครัฐจะเดินหน้าพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆเพิ่มเติมอีกในช่วงปลายปี ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีล่าสุดของรัฐที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ และมีกระแสว่าโครงการ “คนละครึ่งเฟส 4” มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในอนาคต
โดยให้น้ำหนักการประชุม ครม.วันที่ 19 ต.ค.64 นี้ และเอเซียพลัส คาดว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น โครงการเติมเงินในบัตรสวัสดิการ และโครงการช้อปดีมีคืน น่าจะอยู่ในการพิจารณาของรัฐด้วยเช่นกัน ช่วยให้หุ้นกลุ่ม Restart Economy มีกระแสหนุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ และการท่องเที่ยว เช่น CPN, CPALL, CRC, MTC, COM7, SPVI, HMRO, DOHOME, MAJOR, AOT, MINT โดยเลือก CPN, CPALL และ MTC เป็น Toppicks
นอกจากนี้ยังวิเคราะห์หุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ว่าผลกระทบจากการปิดแคมป์ และการระบาดของโควิด-19 คาดกระทบต่อยอด Presale กลุ่มฯ 3Q64 อยู่ที่ 5.5 หมื่นล้านบาท ลดลง 15% qoq และ 11% yoy แต่ด้วยยอดขายสะสม 1H64 ทำได้ค่อนข้างดี ส่งผลให้ Presale 9M64 รวม 1.83 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% yoy และคิดเป็น 71% ของเป้าทั้งปี 2.58 แสนล้านบาท
แม้ระยะสั้นเจอแรงกดดันจากแนวโน้ม Presale และการดำเนินงานที่อ่อนตัวใน 3Q64 แต่ระยะกลางจะเห็นผลประกอบการฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q64 ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มฯ มี Valuation ที่ไม่แพง และ Div Yield จูงใจมากกว่า 4-5% ต่อปี
แนะทยอยสะสม เลือกหุ้นเด่น เน้นแนวราบ ปันผลสูงกว่า 5% ต่อปี ได้แก่ AP, LH, SPALI และ SC!!
แหล่งข่าว ลุ้นหุ้น Restart Economy, ไทยรัฐ, 19 ต.ค. 2564