ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเท่าไหร่ S&P 500 และ Nasdaq ฟื้นขึ้นเล็กน้อยหลังร่วงลงรายสัปดาห์หนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนในวันศุกร์ ตลาดกำลัง price in ราคาเต็มสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยที่ 75 จุด และอีก 15% สำหรับการขึ้น 100 จุด ขณะที่ ฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยสะสมตอนนี้อยู่ที่ 4.46%
ปริมาณการซื้อขายหุ้นในตลาดสหรัฐเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอยู่ที่เพียง 9.58 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นปริมาณที่บางเบาที่สุดอันดับที่ 6 ในรอบปีนี้ นอกจากผลการประชุมเฟดแล้ว ตลาดยังรอข้อมูลประมาณการเศรษฐกิจฉบับใหม่ที่จะออกมาควบคู่กับคำแถลงการประชุมอีกด้วย
ความกังวลเกี่ยวกับความเข้มงวดของเฟดดึงให้ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 18.2% ในปีนี้ ส่วนหนึ่งจากความตกต่ำของรายได้ของ FedEx Corp การพลิกกลับของเส้นอัตราผลตอบแทนสหรัฐ คำเตือนจากธนาคารโลกและ IMF ถึงการชะลอตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น Goldman Sachs ปรัดลดประมาณการ GDP ของสหรัฐในปี 2023 ลงเมื่อวันศุกร์จากคาดการณ์ว่าเฟดจะเข้มงวดทางนโยบายและอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นก่อนหน้านี้
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 197.26 จุดหรือ 0.64% เพิ่มขึ้นเป็น 31,019.68 ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 26.56 จุดหรือ 0.69% เพิ่มขึ้นเป็น 3,899.89 และ Nasdaq Composite เพิ่ม 86.62 จุดหรือ 0.76% เพิ่มขึ้นเป็น 11,535.02 จุด
หุ้น Moderna Inc ลดลงหนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดี Joe Biden กล่าวในการสัมภาษณ์ CBS ว่า "การระบาดใหญ่สิ้นสุดลงแล้ว"
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น 1.4% หลังจากที่ลดลงอย่างรวดเร็วในวันศุกร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.9% บิคเทคอย่าง Apple Inc และ Tesla Inc เพิ่มขึ้น 2.5% และ 1.9% ตามลำดับ
Software Inc ปิดขึ้น 0.7% หลังจากร่วงลงจากกรณีแฮ็กข้อมูลของ Grand Theft Auto VI ก่อนวางจำหน่ายสินค้าเพียง 1 วัน ขณะที่ Knowbe4 Inc พุ่งขึ้น 28.2% สู่ระดับ 22.17 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม
S&P 500 ทำจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 1 จุดและจุดต่ำสุดใหม่ 28 จุด Nasdaq Composite ทำจุดสูงสุดใหม่ 29 จุดและจุดต่ำสุดใหม่ 378 จุด
แหล่งข่าว Wall Street ends choppy session higher with focus firmly on Fed โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
