ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทและดาวโจนส์ทำสถิติสูงสุดในวันพุธเนื่องจากหุ้น growth ดีดตัวจากการเทขายในเซสชั่นก่อนหน้านี้ขณะที่ ปริมาณการว่างงานในภาคเอกชนของเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น Apple Inc, Microsoft Corp, Amazon.com Inc , Facebook Inc และ Alphabet Inc ต่างเพิ่มขึ้นระหว่างช่วง 0.1-1.7%
S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่ ดัชนี Philadelphia SE Semiconductor (.SOX) เพิ่มขึ้น 1.8%
Art Hogan หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ National Securities ในนิวยอร์กกล่าวในบันทึกลูกค้า "เราจะยังคงแนะนำให้มีการจัดสรรหุ้นอย่างหลากหลาย โดยใช้วิธี barbell สำหรับหุ้นที่มีการเติบโตในด้านหนึ่งและมีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจในอีกด้านหนึ่ง"
ยักษ์ใหญ่ 6 ใน 11 รายใน S&P 500 เพิ่มขึ้นในการซื้อขายช่วงบ่าย อาทิ พลังงาน และวัสดุ เพิ่มขึ้นระหว่างช่วง 3.5 -1.3% กลุ่ม Defensive ลดลง 2.2% และอสังหาริมทรัพย์ลดลง 1.3%
ปริมาณการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. ท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นทางการคลังของรัฐบาลและการฉีดวัคซีนที่รวดเร็ว ทั้งนี้ รายข้อการจ้างงานทั้งหมดจะถูกเผยแพร่ในวันศุกร์นี้
ข้อมูลทางเศรษฐกิจและผลประกอบการที่แข็งแกร่งดันดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่อาจสูงขึ้น
ณ 12:10 น. ET ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 155.88 จุดหรือ 0.46% ที่ 34,288.91 จุด S&P 500 เพิ่มขึ้น 22.33 จุดหรือ 0.54% ที่ 4,186.99 จุด และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 85.27 จุดหรือ 0.63% ที่ 13,718.77 จุด
ในด้านหุ้นรายตัว Boeing Co ลดลง 1.6% T-Mobile US Inc เพิ่มขึ้น 4.7% และ Uber Technologies Inc (มีกำหนดรายงานผลประกอบการหลังตลาดปิดทำการในวันพุธ
ดัชนี S&P ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์รวม 97 ครั้งและไม่มีจุดต่ำสุดใหม่ ขณะที่ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่ 101 ครั้งและระดับต่ำสุดใหม่ 40 ครั้ง
แหล่งข่าว Wall Street rises as megacap stocks bounce; Dow hits record high โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand