ใหญ่ชนใหญ่ !! ของจริงเกิดขึ้นแล้ว จาก GULF X Binance เปิดกระดานเทรดในไทย
ด้วยความเป็นเบอร์ 1 ทั้งคู่ ตั้งแต่ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ถือหุ้นใหญ่ใน ADVANC โอปอเรเตอร์รายใหญ่สุดในไทย ส่วนอีกด้านคืออันดับ 1 ของโลกด้านสินทรัพย์ดิจิทัล
ทำให้เริ่มต้นปี 65 มาความร้อนแรงของตลาดดิจิทัลในไทยเห็นแววแล้วว่าเตรียมพุ่งทะลุทะลวงเป็นเท่าตัว จนงานนี้มีเรียกติดปากพูดตามกันมาติดๆ “ใครเข้าได้ก่อน” “มีโอกาสก่อน” “รวยก่อน” ว่างันไป
ก่อนจะเกิดดีลใหญ่ที่ว่าต้องไม่ลืมว่า SCB X Bitkub จุดพลุลูกใหญ่ จนก่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนต่างๆ ตามมาแม้จะมีข้อกังขาเม็ดเงินที่ทุ่มซื้อลงทุนไป 1.7 หมื่นล้านบาท คุ้มค่าแค่ไหน ?
หลังจาก SCB ประกาศยานแม่จัดโครงสร้างโฮลดิ้ง ตามมาด้วยการประกาศ X ข้ามพันธุ์ธุรกิจกันตามาอีกหลายสิบดีล ท่ามกลางมีแรงสกัดทั้งแบงก์ชาติ และหนักสุดภาษีคริปโทฯ
อีกด้าน KBANK ไม่ประกาศใหญ่แต่มียานลูกแข็งแกร่ง และยังไปจับมือร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมเปิดกระดานซื้อขาย โทเคนเกิดขึ้นไตรมาส 2 นี้
ธุรกิจการเงินเจอ “งานช้าง” และ “ท้าทาย ” เพราะรายที่สามที่เข้ามา เหนือกว่าด้วยการประกาศเป็นเบอร์ 1 ของโลกดิจิทัล !!
หุ้นไทยดิ่งตามภูมิภาค กดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับทางเทคนิคยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านด่านสำคัญที่ 1,680 จุดได้ โดยพยายามทดสอบมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่สำเร็จ
โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,660.27 จุด ลดลง 16.60 จุด หรือ 0.99% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,682.93จุด และระดับต่ำสุดที่1,660.15จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 113,953.45 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขาย 3,216.77 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 2,731.04 ล้านบาท ส่วนพอร์ตโบรกฯ ซื้อ 2.13 ล้านบาท และรายย่อยซื้อ 5,945.67 ล้านบาท
กระแสหุ้นสายเขียวยังมาแรง! โดยวันนี้ (19 ม.ค.) ต้องจับตาดูกันให้ดี หลังมีข่าวว่า อย. เตรียมเสนอบอร์ดควบคุมยาเสพติด “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากรายชื่อยาเสพติดให้โทษ เปิดทางให้มีการนำมาใช้มากขึ้น ดันหุ้นบมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ที่ประกาศรุกธุรกิจสายขียวเต็มสูญ เดินหน้าทำออลไทม์ไฮ ล่าสุดมาปิดที่ 6.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือ 8.94% แถมแนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ปี 2564 ยังสดใส
ส่วนหุ้นบมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) ของกลุ่ม “เตชะอุบล” ระหว่างวันขึ้นไปทำนิวไฮที่ 1.45 บาท หลังจับมือพันธมิตรเดินหน้าพัฒนาอาหารผสมกัญชง หนุนผลประกอบการปีนี้พลิกมีกำไร แต่สุดท้ายกลับถูกเทขายช่วงท้ายตลาด เห็นแล้วเสียวไส้ ราคาร่วงมาปิดที่ 1.25 บาท ลดลง 0.07 บาท หรือ 5.3%
“เงินบาท” กลับมาแข็งค่า ต่ำกว่า 33 บาท/ดอลลาร์ ทำนิวโลว์ในรอบเกือบ 2 เดือน ท่ามกลางความหวังกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวด้วยระบบ Test and Go หลังสถานการณ์โควิดเริ่มทรงตัว ซึ่งจะมีการหารือในที่ประชุมศบค.ชุดใหม่ในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) พร้อมกับการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการต่างๆ เพิ่มเติม
แต่เมื่อบาทแข็งกลายเป็นปัจจัยกดดันหุ้นส่งออกทันที อย่างบมจ.เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น (ASIAN) ลงหนัก 5.79% ปิดที่ 17.90บาท ส่วนกลุ่มชิ้นส่วนฯ ถูกเทขายยกแผง โดยบมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) ลดลง 2.74% ปิด 79.75 บาท, บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ดิ่ง 4.36% ปิด 76.75บาท และบมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) ร่วง 3.64% ปิด 397 บาท
หุ้นไอพีโอน้องใหม่ป้ายแดง บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) ยังทำผลงานน่าประทับใจ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 มาปิด 29.50 บาท หรือเพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 63% จากราคาไอพีโอ 18 บาท
และอีกหนึ่งตัวที่เตรียมลงสนามเทรดเดือนนี้ บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง (CIVIL) ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างที่คร่ำหวอดมากว่า 50 ปี เคาะราคาเสนอขายออกมาเป็นที่เรียบร้อยหุ้นละ 4.60 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 19-21 ม.ค. นี้ และจะเข้าเทรดใน SET วันที่ 27 ม.ค.
แหล่งข่าว ศึกชิงตลาดดิจิทัล |ออฟเรคคอร์ด, bangkokbiznews, 19 ม.ค. 2565