นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า จากข้อมูลการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งแรกปี 2564 ที่ประเทศไทย ยังคงประสบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 และ 4 ได้พบความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของอุปทานที่อยู่อาศัยหน่วยเปิดขายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
ครึ่งแรกมีโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เพียง 18,713 หน่วย ลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่ารวม 86,419 ล้านบาท ลดลง 5.9% ส่งผลให้อุปทานที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่มีการขายในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีจำนวนรวม 194,779 หน่วย ลดลง 5.4% มีมูลค่ารวม 971,460 ล้านบาท ลดลง 6.4 %
โดยมีหน่วยขายได้ใหม่ลดลง ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมี 29,776 หน่วย ลดลง 9.1% มูลค่า 144,651 ล้านบาทลดลง 9.0% ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขายอยู่ในตลาด 165,003 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 826,809 ล้านบาท ลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า 4.7 %และ 5.9% ตามลำดับ
ทั้งนี้เป็นการลดลงของหน่วยอาคารชุดเหลือขายที่ลดลง 10.7% ขณะที่หน่วยบ้านจัดสรรเหลือขายลดลง 0.3% ทั้งนี้เป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการปรับตัว โดยลดจำนวนการพัฒนาโครงการอาคารชุดเปิดตัวใหม่ หันไปพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรเข้ามาสู่ตลาดมากเพิ่มขึ้น
ระบุอสังหาฯ ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
นายวิชัย ระบุว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ประมาณการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะเข้าสู่ตลาดในปี 2564 มีจำนวน 53,693 หน่วย มูลค่ารวม 239,736 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 30,556 หน่วย มูลค่า152,659 ล้านบาท โครงการอาคารชุดประมาณ 23,137 หน่วย มูลค่า 87,077 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2564 อัตราการขยายตัวของหน่วยโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะมีอัตราติดลบที่น้อยกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะลดลง3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าลดลง22.2% คาดว่าสถานการณ์ของหน่วยเปิดขายใหม่ของพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลจะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งแรก
ทั้งนี้ คาดว่า ครึ่งปีแรกปี 2565 อัตราการขยายตัวของหน่วยโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะเพิ่มขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ถึง 95.8% และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 24.3% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ในขณะที่มูลค่าในครึ่งแรกของปี 2565 จะเพิ่มขึ้น 100.3% และเริ่มชะลอการขยายตัวในช่วงครึ่งหลังปี 2565
ในส่วนของหน่วยขายได้ใหม่ คาดการณ์ว่า ในปี 2564 ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 61,993 หน่วย มูลค่ารวม 292,616 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร 31,999 หน่วย มูลค่ารวม173,652 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 29,994 หน่วยมูลค่ารวม 118,965 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งหลังปี 2564 จะมีหน่วยขายได้ใหม่มากกว่าครึ่งปีแรก หรือมีอัตราขยายตัวติดลบลดลง6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าลดลง10.3%
ส่วนในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะมีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 75,843 มูลค่ารวม 341,472 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร 35,070 หน่วย มูลค่ารวม 180,421 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด 40,773 หน่วย มูลค่ารวม161,051 ล้านบาท คาดว่าครึ่งแรกปี 2565 ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมียอดขายที่ดีขึ้นกว่าครึ่งแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้น 17.4% และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 26.9% ในช่วงครึ่งหลัง ขณะที่มูลค่าครึ่งแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 11% และขยายตัวเพิ่มขึ้น 22.3% ช่วงครึ่งหลังปี 2565
แหล่งข่าว ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯชี้ผ่านจุดต่ำสุด คาดปี65โอนกรรมสิทธิ์พลิกโต10%, bangkokbiznews, 16 ก.ย. 2564