หากคุณเพิ่งเริ่มซื้อขายหุ้น คงจะไม่รู้จักกับคำว่า “ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์” ซึ่งมันมีหน้าที่ในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการ เนื้อหาในบทความต่อไปนี้จะช่วยคุณตอบคำถามเกี่ยวกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ มาร่วมทำความเข้าใจไปด้วยกัน
การรับฝากหลักทรัพย์คืออะไร? การรับฝากหลักทรัพย์หมายถึงการเก็บรักษาและรับหลักทรัพย์ที่ลูกค้าฝากและการโอนหลักทรัพย์จากลูกค้า โดยที่ผู้ฝากยังคงมีสิทธิในหลักทรัพย์ของตนเอง
ผู้ฝากสินทรัพย์ยังคงได้รับสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของหลักทรัพย์ ได้แก่
• สิทธิในการรับดอกเบี้ยและเงินต้นของพันธบัตร สิทธิในการออกเสียง สิทธิในการรับโบนัสหุ้น
• สิทธิในการรับเงินปันผลเป็นหุ้นหรือเงินสด
• สิทธิในการแปลงสภาพหุ้นกู้ สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่ม
หลักทรัพย์หลังจากฝากแล้วจะถูกบันทึกลงในบัญชีรับฝากหลักทรัพย์ในนามของผู้ลงทุน และสามารถซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ต้องส่งมอบใบหลักทรัพย์
ทำไมนักลงทุนต้องฝากหลักทรัพย์?
ในทุก ๆ การทำธุรกรรม หลักทรัพย์ที่คุณเป็นเจ้าของยังไม่ได้ถูกฝาก จากนั้นคุณจะต้องทำธุรกรรมโดยตรงผ่านแบบฟอร์มต่างๆ เช่น มอบเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของ ใช้สัญญาโอน หรือต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของหลักทรัพย์ เป็นต้น
การดำเนินการดังกล่าวนั้นอาจมีความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง ซึ่งศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะทำหน้าที่ป้องกันผลโยชน์หลายประการ เช่น
• ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ใบหลักทรัพย์ รักษาใบหลักทรัพย์
• ลดความเสี่ยงในการดำเนินการของตลาด
• ชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว มีส่วนทำให้การหมุนเวียนเงินทุนของตลาด
• หลีกเลี่ยงความเสียหาย ถูกขโมย หรือหลักทรัพยสูญหาย
• ช่วยตรวจสอบการฝาก ถอนหรือถ่ายโอนหลักทรัพย์ และสามารถรับหุ้นผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์
ดังที่กล่าวมานี้ คุณจะเห็นได้ว่ากิจกรรมรับฝากหลักทรัพย์มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการซื้อขายในตลาดหุ้น
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์มีลักษณะอย่างไร?
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์มีลักษณะดังต่อไปนี้ ผู้ที่จะใช้บริการศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ได้แก่ ลูกค้าทั่วไปที่ต้องงการฝากหลักทรัพย์ และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
การจัดการบัญชีรับฝากหลักทรัพย์ในศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะกระทำจากยอดรวมของบัญชีเงินฝากหลักทรัพย์ที่เปิดโดยลูกค้าที่สมาชิกศูนย์รับฝากหลักทรัพย์และต้องตรงกับยอดบัญชีเงินฝากของสมาชิกผู้ฝากที่เปิดอยู่ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
นักลงทุนแต่ละรายสามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้เพียงบัญชีเดียวกับสมาชิกผู้ฝากหนึ่งรายดังนั้นผู้ลงทุนจึงต้องศึกษาข้อมูลล่วงหน้าเพื่อเลือกผู้รับฝากที่เหมาะสมกับตนเองก่อนทำการลงทะเบียน
หากผู้ลงทุนต้องการเปลี่ยนเป็นสมาชิกผู้ฝากรายอื่น ผู้ลงทุนจะเปิดบัญชีเงินฝากใหม่ที่สมาชิกผู้ฝากรายใหม่ ในขณะเดียวกันต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการปิดบัญชีเงินฝากของสมาชิกผู้ฝากเดิมและขอให้สมาชิกผู้ฝากรายนี้โอนยอดหลักทรัพย์ไปยังบัญชีเงินฝากของสมาชิกผู้ฝากรายใหม่
ข้อควรทราบในการฝากหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เป็นสิ่งแรกที่นักลงทุนจะต้องรู้จักก่อนจะทำธุรกรรมหลักทรัพย์ และเพื่อรับประกันในสิทธิและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ ควรสังเกตสิ่งต่อไปนี้:
• เมื่อเปิดบัญชีฝากสินทรัพย์ คุณจะต้องระบุที่อยู่อย่างชัดเจนและถูกต้อง
• ใบรับรองหลักทรัพย์จะไม่ได้รับการยอมรับหากมีลักษณะยับ เปื้อน เสียหาย หรือข้อมูลการรับรองความถูกต้องพื้นฐานไม่ชัดเจน
ใบหลักทรัพย์ที่ถูกปลอมแปลงหรือถูกขโมยจะถูกระงับการใช้งานชั่วคราวและมอบอำนาจให้แก่ผู้ออกหรือผู้มีอํานาจในการจัดการ
• หุ้นที่ไม่ระบุชื่อ หมายเลขใบรับรองและชื่อบุคคลที่ปรากฏจะต้องเป็นเจ้าของหลักทรัพย์
• ผู้ถือหุ้นที่ซื้อยังชำระไม่เต็มจำนวน หรือหุ้นของผู้ถือหุ้นผู้ก่อตั้งยังคงใช้ได้ตามกฎหมาย หุ้นจะสามารถทำการฝากได้ตามปกติ แต่ไม่อนุญาตให้ทำการซื้อขายได้
จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ คุณคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับ "ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์" มากขึ้น ตลอดจนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดูแลหลักทรัพย์ ทั้งนี้ หากมีข้อคำถามเพิ่มเติม คุณสามารถติดต่อเราเพื่อขอคำแนะนำโดยตรง
ติดตามข่าวสารด้านการเงิน ธุรกิจเพิ่มเติมที่ https://finnews24.com/th/
การรับฝากหลักทรัพย์คืออะไร? การรับฝากหลักทรัพย์หมายถึงการเก็บรักษาและรับหลักทรัพย์ที่ลูกค้าฝากและการโอนหลักทรัพย์จากลูกค้า โดยที่ผู้ฝากยังคงมีสิทธิในหลักทรัพย์ของตนเอง
ผู้ฝากสินทรัพย์ยังคงได้รับสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของหลักทรัพย์ ได้แก่
• สิทธิในการรับดอกเบี้ยและเงินต้นของพันธบัตร สิทธิในการออกเสียง สิทธิในการรับโบนัสหุ้น
• สิทธิในการรับเงินปันผลเป็นหุ้นหรือเงินสด
• สิทธิในการแปลงสภาพหุ้นกู้ สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่ม
หลักทรัพย์หลังจากฝากแล้วจะถูกบันทึกลงในบัญชีรับฝากหลักทรัพย์ในนามของผู้ลงทุน และสามารถซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ต้องส่งมอบใบหลักทรัพย์
ทำไมนักลงทุนต้องฝากหลักทรัพย์?
ในทุก ๆ การทำธุรกรรม หลักทรัพย์ที่คุณเป็นเจ้าของยังไม่ได้ถูกฝาก จากนั้นคุณจะต้องทำธุรกรรมโดยตรงผ่านแบบฟอร์มต่างๆ เช่น มอบเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของ ใช้สัญญาโอน หรือต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของหลักทรัพย์ เป็นต้น
การดำเนินการดังกล่าวนั้นอาจมีความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง ซึ่งศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะทำหน้าที่ป้องกันผลโยชน์หลายประการ เช่น
• ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ใบหลักทรัพย์ รักษาใบหลักทรัพย์
• ลดความเสี่ยงในการดำเนินการของตลาด
• ชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว มีส่วนทำให้การหมุนเวียนเงินทุนของตลาด
• หลีกเลี่ยงความเสียหาย ถูกขโมย หรือหลักทรัพยสูญหาย
• ช่วยตรวจสอบการฝาก ถอนหรือถ่ายโอนหลักทรัพย์ และสามารถรับหุ้นผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์
ดังที่กล่าวมานี้ คุณจะเห็นได้ว่ากิจกรรมรับฝากหลักทรัพย์มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการซื้อขายในตลาดหุ้น
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์มีลักษณะอย่างไร?
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์มีลักษณะดังต่อไปนี้ ผู้ที่จะใช้บริการศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ได้แก่ ลูกค้าทั่วไปที่ต้องงการฝากหลักทรัพย์ และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
การจัดการบัญชีรับฝากหลักทรัพย์ในศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะกระทำจากยอดรวมของบัญชีเงินฝากหลักทรัพย์ที่เปิดโดยลูกค้าที่สมาชิกศูนย์รับฝากหลักทรัพย์และต้องตรงกับยอดบัญชีเงินฝากของสมาชิกผู้ฝากที่เปิดอยู่ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
นักลงทุนแต่ละรายสามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้เพียงบัญชีเดียวกับสมาชิกผู้ฝากหนึ่งรายดังนั้นผู้ลงทุนจึงต้องศึกษาข้อมูลล่วงหน้าเพื่อเลือกผู้รับฝากที่เหมาะสมกับตนเองก่อนทำการลงทะเบียน
หากผู้ลงทุนต้องการเปลี่ยนเป็นสมาชิกผู้ฝากรายอื่น ผู้ลงทุนจะเปิดบัญชีเงินฝากใหม่ที่สมาชิกผู้ฝากรายใหม่ ในขณะเดียวกันต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการปิดบัญชีเงินฝากของสมาชิกผู้ฝากเดิมและขอให้สมาชิกผู้ฝากรายนี้โอนยอดหลักทรัพย์ไปยังบัญชีเงินฝากของสมาชิกผู้ฝากรายใหม่
ข้อควรทราบในการฝากหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เป็นสิ่งแรกที่นักลงทุนจะต้องรู้จักก่อนจะทำธุรกรรมหลักทรัพย์ และเพื่อรับประกันในสิทธิและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ ควรสังเกตสิ่งต่อไปนี้:
• เมื่อเปิดบัญชีฝากสินทรัพย์ คุณจะต้องระบุที่อยู่อย่างชัดเจนและถูกต้อง
• ใบรับรองหลักทรัพย์จะไม่ได้รับการยอมรับหากมีลักษณะยับ เปื้อน เสียหาย หรือข้อมูลการรับรองความถูกต้องพื้นฐานไม่ชัดเจน
ใบหลักทรัพย์ที่ถูกปลอมแปลงหรือถูกขโมยจะถูกระงับการใช้งานชั่วคราวและมอบอำนาจให้แก่ผู้ออกหรือผู้มีอํานาจในการจัดการ
• หุ้นที่ไม่ระบุชื่อ หมายเลขใบรับรองและชื่อบุคคลที่ปรากฏจะต้องเป็นเจ้าของหลักทรัพย์
• ผู้ถือหุ้นที่ซื้อยังชำระไม่เต็มจำนวน หรือหุ้นของผู้ถือหุ้นผู้ก่อตั้งยังคงใช้ได้ตามกฎหมาย หุ้นจะสามารถทำการฝากได้ตามปกติ แต่ไม่อนุญาตให้ทำการซื้อขายได้
จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ คุณคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับ "ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์" มากขึ้น ตลอดจนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดูแลหลักทรัพย์ ทั้งนี้ หากมีข้อคำถามเพิ่มเติม คุณสามารถติดต่อเราเพื่อขอคำแนะนำโดยตรง
ติดตามข่าวสารด้านการเงิน ธุรกิจเพิ่มเติมที่ https://finnews24.com/th/