ในเดือนมิ.ย. 64 การส่งออกของไทยขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 43.82% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี และสูงกว่าตลาดการณ์ที่ 38.1% ส่งผลให้การส่งออกไทยในครึ่งปีแรกเติบโตที่ 15.53% อย่างไรก็ตาม ระดับดังกล่าวไม่นับว่าสูงมากเมื่อเทียบการฟื้นตัวของการส่งออกของประเทศในภูมิภาคที่ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 20% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ทั้งนี้ เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ ยุทธปัจจัย การส่งออกในครึ่งปีแรกของไทยขยายตัวได้ถึง 20.84% สอดคล้องกับประเทศอื่นในภูมิภาค หลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยหนุนหลักต่อภาคการส่งออก อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาระดับของการเติบโต ในช่วงครึ่งปีแรกการส่งออกของไทยยังคงต่ำกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค เนื่องจากการส่งออกของไทยเพิ่งเริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา (เดือนก.พ.ปรับตัวลดลง -2.59%)
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 คาดว่า อัตราขยายตัวของการส่งออกไทยมีแนวโน้มเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยฐานต่ำและปัจจัยการชดเชยอุปสงค์ที่ค้างจากช่วงก่อนหน้า (pent-up demand) มีแนวโน้มคลี่คลายลง แต่จากปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อความต้องการสินค้าส่งออกไทยมากขึ้น ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกไทยในปี 2564 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 11.5% จากที่เคยประเมินไว้ที่ 9.0% ในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้าภาคการส่งออกยังคงเผชิญความท้าทายอีกหลากหลายด้าน ทั้งความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง หลังจากหลายประเทศเริ่มกลับมาเผชิญจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้าที่มีการแพร่กระจายได้ง่ายและส่งผลให้มีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจะส่งผลต่ออุปสงค์ของสินค้า อีกทั้งในไทยเองหากสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นอาจส่งผลให้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรมมีความน่ากังวลเพิ่มขึ้น (Supply Disruption) และอาจเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกไทยในระยะข้างหน้า
แหล่งข่าว 'ศูนย์วิจัยกสิกรไทย' เพิ่มเป้า'ส่งออก'ไทยปีนี้โต11.5%จากเดิมที่9%, bangkokbiznews, 24 ก.ค. 2564