ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุนวันที่ 19ส.ค.2564 พบว่า สถาบันในประเทศ (กองทุน) จับมือขายสุทธิออกมา 893.26 ล้านบาท พร้อมกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 652.73 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนทั่วไปในประเทศ (รายย่อย)ซื้อสุทธิมากสุด 1,030.29 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 515.70 ล้านบาท
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียต่างติดลบเช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบ่ายนี้ลงๆไปถึง 300 จุด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลด QE ภายในปีนี้ และการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ทำให้นักลงทุนทิ้งสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า เป็นผลลบต่อตลาดหุ้น
ขณะที่เงินบาทยังแข็งแกร่งแม้จะอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่าแต่ก็อ่อนค่าน้อยกว่าที่คาด อีกทั้งยังมีแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันเข้ามาที่หุ้ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและราคาลงไปมากแล้ว รวมทั้งการนำเสนอข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนเป็นแรงหนุนหุ้นรายตัว ดังนั้นควรจะติดตามข้อมูลเพื่อเป็นมุมมองต่อผลประกอบการไตรมาส 3/64 หลังจากเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหมี่เต็มที่ หากไม่ได้รับผลกระทบมากนักก็อาจทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นได้ อีกทั้งแนะติดตามทิศทางราคาน้ำมันด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบจำกัด แต่ก็ขึ้นอยู่กับทิศทางตลาดฯสหรัฐฯ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด
แหล่งข่าว สถาบัน-โบรกเกอร์ขายหุ้นไทยสวนทางรายย่อยและต่างชาติช้อนซื้อ, bangkokbiznews, 19 ส.ค. 2564