Menu
Forums
New posts
Search forums
What's new
New posts
Blog
Latest activity
Members
Current visitors
เกี่ยวกับเรา
Groups
Search groups
Upcoming events
ภาษา (🇺🇸 🇹🇭)
Log in
Register
What's new
Search
Search
Search titles only
By:
New posts
Search forums
Menu
Log in
Register
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
สรุปสภาวะตลาดในปี 25464
JavaScript is disabled. For a better experience, please enable JavaScript in your browser before proceeding.
Reply to thread
Message
<p>[QUOTE="WealthUp, post: 5439, member: 27"]</p><p style="text-align: center">[ATTACH=full]6259[/ATTACH]</p><p></p><p>ปีที่สองของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เกือบจะน่าทึ่งพอๆ กับปีแรก หุ้นกระทิงยังคงโลดแล่น พลังงานและราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นดันเงินเฟ้อทำให้ตลาดตราสารหนี้สั่นสะเทือน ขณะที่เทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์รุ่นเฮฟวี่เวทในจีนขาดทุน 1 ล้านล้านดอลลาร์</p><p></p><p><strong>1.หุ้นโลกฟื้นตัว</strong></p><p>มูลค่าดัชนีหุ้นโลก 50 ประเทศของ MSCI ร่วงลง 10 ล้านล้านดอลลาร์หรือ 13% จากสัญญาณการฟื้นตัวของโควิด และกระแสการกลับสู่นโยบายที่เป็นปกติของธนาคารกลาง ตรงกันข้ามกับวอลล์สตรีทที่เพิ่มขึ้น 23%</p><p>ธนาคารยุโรปทำผลงานรายปีดีที่สุดในรอบกว่าทศวรรษด้วยการเพิ่มขึ้น 33% แต่หุ้นในตลาดเกิดใหม่ร่วงลง 7% นำโดยการดิ่งลงกว่า 30% ในเทคโนโลยีของจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง</p><p></p><p><strong>2.น้ำมัน</strong></p><p>เศรษฐกิจเผชิญกับการขาดแคลนทรัพยากรขนาดใหญ่ท่ามกลางความพยายามจะกลับสู่สภาวะปกติ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 40% และ 50% ทำผลงานดีที่สุดในรอบ 5 ปี และราคายังคงสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด</p><p>นอกจากนี้ คูเปอร์ทำสถิติสูงสุดในเดือนเมษายนและพุ่งขึ้นเกือบ 25% เป็นปีที่สองติดต่อกัน สังกะสีก็เติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน ขณะที่อะลูมิเนียมก็เพิ่มขึ้นกว่า 40% ทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ตลาดเกษตรเติบโตด้วยข้าวโพด น้ำตาล และกาแฟ</p><p></p><p><strong>3.หมีในร้านค้าของจีน</strong></p><p>การปราบปรามบริษัทออนไลน์รายใหญ่ของจีน ประกอบกับวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ ฉุดมูลค่าตลาดของจีนมากกว่าล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้</p><p>อาลีบาบาร่วงลงเกือบ 50% ดัชนีหุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ลดลง 40% ขณะที่ Evergrande ร่วงลงหนักที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึน</p><p></p><p><strong>4.พันธบัตร - ไม่มีช่วงซื้อ</strong></p><p>อัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นและสัญญาณของธนาคารกลางขนาดใหญ่ทำให้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับตลาดตราสารหนี้</p><p>พันธบัตรสหรัฐซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของโลกสำหรับผู้ลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ คาดว่าจะขาดทุน 2% ขณะที่เงินยูโรที่ร่วงลง 8% ในปีนี้อาจชี้ว่าพันธบัตรของประเทศจะร่วงลงมากกว่า 9% ในรูปของเงินดอลลาร์</p><p>ในด้านบวก กลุ่มพันธบัตร 'ขยะ' ที่มีความเสี่ยงมากที่สุดที่มีอันดับ CCC และต่ำกว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป พันธบัตรที่เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อก็ทำได้ดีเช่นกัน</p><p></p><p><strong>5. หุ้น MEME </strong></p><p>ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในวอลล์สตรีทปีนี้ไม่พ้นหุ้นที่เรียกว่า 'meme'</p><p>หุ้น GameStop เพิ่มขึ้นเกือบ 2,500% ในเดือนมกราคม และ AMC Entertainment อีกหนึ่ง meme ก็เพิ่มขึ้นประมาณ 1,350% แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นมากถึง 3,200% ในต้นเดือนมิถุนายน</p><p>Tesla ฟื้นตัวจากการร่วงลงเมื่อต้นปี แต่กองทุนหรือหุ้นอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับนวัตกรรม เช่น ARK Innovation Fund และหุ้นพลังงานแสงอาทิตย์บางส่วน หุ้น BioTech และบริษัทจัดหากิจการเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษหรือที่เรียกว่า SPAC ลดลง 20% ถึง 30%</p><p></p><p><strong>6.ค่าเงินตุรกี</strong></p><p>ประธานาธิบดี Tayyip Erdogan ได้ประกาศต่อสู้กับอัตราดอกเบี้ย และผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ที่ประกาศเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้เงินลีร่าร่วงลงกว่า 40% สำหรับปีนี้แม้มีการตีกลับที่ดีในสัปดาห์นี้ก็ตาม</p><p></p><p><strong>7. ภาวะ Inflation</strong></p><p>อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นกลายเป็นความกังวลหลักสำหรับนักลงทุนในปี 2564 เนื่องจากการระบาดใหญ่ทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัก ธนาคารกลางสหรัฐประกาศในเดือนนี้ว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรเร็วขึ้น และธนาคารแห่งอังกฤษกลายเป็นธนาคารกลาง G7 แห่งแรกที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ยังคาดว่าธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ เตรียมที่จะปรับนโยบายตามกัน รวมถึงตลาดเกิดใหม่บางประเทศก็เริ่มกลับสู่นโยบายที่เป็นปกติแล้ว</p><p></p><p><strong>8.ชะตากรรมของตลาดเกิดใหม่</strong></p><p>การต่อสู้ดิ้นรนของจีนและการแพร่ระบาดที่คงอยู่ทำให้หุ้น EM สูญเสีย 7% ซึ่งดูแย่ยิ่งลงอีกเมื่อเทียบกับดัชนีโลกที่เพิ่มขึ้น 13% และเพิ่มขึ้น 23% จากตลาดหุ้นวอลล์สตรีท</p><p>พันธบัตรรัฐบาล EM สกุลเงินท้องถิ่นก็ทำผลงานไม่ดีเช่นกัน โดยร่วงลง 9.7% พันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ทำผลงานดีขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ผลิตน้ำมัน แต่ดัชนีสกุลเงิน EM ของ J.P. Morgan ซึ่งไม่รวมหยวนของจีนร่วงเกือบ 10%</p><p></p><p><strong>9.ความร้อนแรงในตลาดคริปโต</strong></p><p>การกระโดดขึ้นใกล้ 70% ของ Bitcoin อาจดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 300% ของปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีการปราบปรามของจีนในเดือนพฤษภาคมซึ่งทำให้ราคาลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง</p><p>Dogecoin ที่เปิดตัวในปี 2013 ทะยานขึ้นกว่า 12,000% จากต้นปีจนถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะร่วงลงเกือบ 80% ภายในกลางเดือนธันวาคม</p><p>Non-fungible tokens(NFTs) กำลังได้รับความนิยม ภาพตัดปะแบบดิจิทัลโดยศิลปินชาวอเมริกัน Beeple ที่ขายได้เกือบ 70 ล้านดอลลาร์ในร้าน Christie's ในเดือนพฤษภาคม ทำให้เป็นหนึ่งในสามผลงานที่แพงที่สุดโดยศิลปินที่ยังมีชีวิตที่ขายทอดตลาด</p><p></p><p><strong>10.ความฝันเกี่ยวกับตราสารหนี้สีเขียว</strong></p><p>การออกตราสารหนี้สีเขียวมีขึ้นและทำลายสถิติอีกครั้งโดยมีมูลค่าเกือบครึ่งล้านล้านดอลลาร์ ดัชนี MSCI หุ้นระดับโลกใน 'ESG' เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน ขณะที่ดัชนีหุ้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของจีนพุ่งขึ้นมากกว่า 40% แม้ว่าภาคส่วนอื่นๆ จะลดลง</p><p></p><p>แหล่งข่าว Global Markets in 2021: Recoveries, reflation and wrecking balls โดย Reuters</p><p></p><p>แปลโดยทีม TradersThailand</p><p>[/QUOTE]</p>
[QUOTE="WealthUp, post: 5439, member: 27"] [CENTER][ATTACH type="full"]6259[/ATTACH][/CENTER] ปีที่สองของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เกือบจะน่าทึ่งพอๆ กับปีแรก หุ้นกระทิงยังคงโลดแล่น พลังงานและราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นดันเงินเฟ้อทำให้ตลาดตราสารหนี้สั่นสะเทือน ขณะที่เทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์รุ่นเฮฟวี่เวทในจีนขาดทุน 1 ล้านล้านดอลลาร์ [B]1.หุ้นโลกฟื้นตัว[/B] มูลค่าดัชนีหุ้นโลก 50 ประเทศของ MSCI ร่วงลง 10 ล้านล้านดอลลาร์หรือ 13% จากสัญญาณการฟื้นตัวของโควิด และกระแสการกลับสู่นโยบายที่เป็นปกติของธนาคารกลาง ตรงกันข้ามกับวอลล์สตรีทที่เพิ่มขึ้น 23% ธนาคารยุโรปทำผลงานรายปีดีที่สุดในรอบกว่าทศวรรษด้วยการเพิ่มขึ้น 33% แต่หุ้นในตลาดเกิดใหม่ร่วงลง 7% นำโดยการดิ่งลงกว่า 30% ในเทคโนโลยีของจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง [B]2.น้ำมัน[/B] เศรษฐกิจเผชิญกับการขาดแคลนทรัพยากรขนาดใหญ่ท่ามกลางความพยายามจะกลับสู่สภาวะปกติ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 40% และ 50% ทำผลงานดีที่สุดในรอบ 5 ปี และราคายังคงสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด นอกจากนี้ คูเปอร์ทำสถิติสูงสุดในเดือนเมษายนและพุ่งขึ้นเกือบ 25% เป็นปีที่สองติดต่อกัน สังกะสีก็เติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน ขณะที่อะลูมิเนียมก็เพิ่มขึ้นกว่า 40% ทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ตลาดเกษตรเติบโตด้วยข้าวโพด น้ำตาล และกาแฟ [B]3.หมีในร้านค้าของจีน[/B] การปราบปรามบริษัทออนไลน์รายใหญ่ของจีน ประกอบกับวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ ฉุดมูลค่าตลาดของจีนมากกว่าล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ อาลีบาบาร่วงลงเกือบ 50% ดัชนีหุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ลดลง 40% ขณะที่ Evergrande ร่วงลงหนักที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึน [B]4.พันธบัตร - ไม่มีช่วงซื้อ[/B] อัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นและสัญญาณของธนาคารกลางขนาดใหญ่ทำให้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับตลาดตราสารหนี้ พันธบัตรสหรัฐซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของโลกสำหรับผู้ลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ คาดว่าจะขาดทุน 2% ขณะที่เงินยูโรที่ร่วงลง 8% ในปีนี้อาจชี้ว่าพันธบัตรของประเทศจะร่วงลงมากกว่า 9% ในรูปของเงินดอลลาร์ ในด้านบวก กลุ่มพันธบัตร 'ขยะ' ที่มีความเสี่ยงมากที่สุดที่มีอันดับ CCC และต่ำกว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป พันธบัตรที่เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อก็ทำได้ดีเช่นกัน [B]5. หุ้น MEME [/B] ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในวอลล์สตรีทปีนี้ไม่พ้นหุ้นที่เรียกว่า 'meme' หุ้น GameStop เพิ่มขึ้นเกือบ 2,500% ในเดือนมกราคม และ AMC Entertainment อีกหนึ่ง meme ก็เพิ่มขึ้นประมาณ 1,350% แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นมากถึง 3,200% ในต้นเดือนมิถุนายน Tesla ฟื้นตัวจากการร่วงลงเมื่อต้นปี แต่กองทุนหรือหุ้นอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับนวัตกรรม เช่น ARK Innovation Fund และหุ้นพลังงานแสงอาทิตย์บางส่วน หุ้น BioTech และบริษัทจัดหากิจการเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษหรือที่เรียกว่า SPAC ลดลง 20% ถึง 30% [B]6.ค่าเงินตุรกี[/B] ประธานาธิบดี Tayyip Erdogan ได้ประกาศต่อสู้กับอัตราดอกเบี้ย และผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ที่ประกาศเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้เงินลีร่าร่วงลงกว่า 40% สำหรับปีนี้แม้มีการตีกลับที่ดีในสัปดาห์นี้ก็ตาม [B]7. ภาวะ Inflation[/B] อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นกลายเป็นความกังวลหลักสำหรับนักลงทุนในปี 2564 เนื่องจากการระบาดใหญ่ทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัก ธนาคารกลางสหรัฐประกาศในเดือนนี้ว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรเร็วขึ้น และธนาคารแห่งอังกฤษกลายเป็นธนาคารกลาง G7 แห่งแรกที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ยังคาดว่าธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ เตรียมที่จะปรับนโยบายตามกัน รวมถึงตลาดเกิดใหม่บางประเทศก็เริ่มกลับสู่นโยบายที่เป็นปกติแล้ว [B]8.ชะตากรรมของตลาดเกิดใหม่[/B] การต่อสู้ดิ้นรนของจีนและการแพร่ระบาดที่คงอยู่ทำให้หุ้น EM สูญเสีย 7% ซึ่งดูแย่ยิ่งลงอีกเมื่อเทียบกับดัชนีโลกที่เพิ่มขึ้น 13% และเพิ่มขึ้น 23% จากตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พันธบัตรรัฐบาล EM สกุลเงินท้องถิ่นก็ทำผลงานไม่ดีเช่นกัน โดยร่วงลง 9.7% พันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ทำผลงานดีขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ผลิตน้ำมัน แต่ดัชนีสกุลเงิน EM ของ J.P. Morgan ซึ่งไม่รวมหยวนของจีนร่วงเกือบ 10% [B]9.ความร้อนแรงในตลาดคริปโต[/B] การกระโดดขึ้นใกล้ 70% ของ Bitcoin อาจดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 300% ของปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีการปราบปรามของจีนในเดือนพฤษภาคมซึ่งทำให้ราคาลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง Dogecoin ที่เปิดตัวในปี 2013 ทะยานขึ้นกว่า 12,000% จากต้นปีจนถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะร่วงลงเกือบ 80% ภายในกลางเดือนธันวาคม Non-fungible tokens(NFTs) กำลังได้รับความนิยม ภาพตัดปะแบบดิจิทัลโดยศิลปินชาวอเมริกัน Beeple ที่ขายได้เกือบ 70 ล้านดอลลาร์ในร้าน Christie's ในเดือนพฤษภาคม ทำให้เป็นหนึ่งในสามผลงานที่แพงที่สุดโดยศิลปินที่ยังมีชีวิตที่ขายทอดตลาด [B]10.ความฝันเกี่ยวกับตราสารหนี้สีเขียว[/B] การออกตราสารหนี้สีเขียวมีขึ้นและทำลายสถิติอีกครั้งโดยมีมูลค่าเกือบครึ่งล้านล้านดอลลาร์ ดัชนี MSCI หุ้นระดับโลกใน 'ESG' เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐาน ขณะที่ดัชนีหุ้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของจีนพุ่งขึ้นมากกว่า 40% แม้ว่าภาคส่วนอื่นๆ จะลดลง แหล่งข่าว Global Markets in 2021: Recoveries, reflation and wrecking balls โดย Reuters แปลโดยทีม TradersThailand [/QUOTE]
Preview
Name
Verification
Post reply
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
สรุปสภาวะตลาดในปี 25464
Top