ฝ่ายบริหารของไบเดนได้ขอให้ จีน อินเดียและญี่ปุ่น พิจารณาปล่อยน้ำมันดิบสำรอบเพื่อลดราคาพลังงานโลก ท่ามกลางราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและต้นทุนการผลิตจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งยังเป็นสัญญาณการขัดแย้งกับ OPEC+ ที่ปฏิเสธข้อเรียกร้องของไบเดนตลอดช่วงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันคลี่คลายจากข่าวดังกล่าวหลังจากพุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อต้นเดือนต.ค.
โตเกียวตอบรับเชิงบวกต่อข่าวในเบื้องต้น ตามแหล่งข่าวแหล่งหนึ่ง แต่ไม่ชัดเจนในทันทีว่าประเทศอื่นมีท่าทีอย่างไร แต่หลายคนที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้เตือนว่าการเจรจาเรื่องการปล่อยอุปทานยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายใดๆ ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดการสนทนากับประเทศอื่นๆ
หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเกี่ยวกับการอภิปรายในทำเนียบขาว ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐซื้อขายที่ 78.18 ดอลลาร์ ลดลงจากระดับปิดที่ 78.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ร่วงลงสู่ 80.21 ดอลลาร์ หลังจากสิ้นสุดที่ 80.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในด้านโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปกกล่าวเมื่อวันอังคารว่า เขาคาดว่าอุปทานส่วนเกินทั่วโลกจะเกิดขึ้นทันทีในเดือนธันวาคม “นี่เป็นสัญญาณว่าเราต้องระวังให้มาก”
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศในกรุงปารีส ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังด้านพลังงานซึ่งรวมถึงผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดบางราย รวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในยุโรปจำนวนมากระบุว่า “IEA ติดตามตลาดน้ำมันอย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะดำเนินการตามความจำเป็น”
แหล่งข่าว U.S. asks Japan, China, others to consider tapping oil reserves โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand