ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ ลดลงประมาณ 2% หลังจากรายงาน CPI เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ทั้งนี้ หากรวมภาคอาหารและพลังงานแล้วดัชนีดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นถึง 0.9%
“ร้อนกว่าที่คาดไว้ แต่ไม่ร้อนเกินไป” Gregory Daco หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐที่ Oxford Economics ในนิวยอร์กกล่าวว่า“เฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ”
นักลงทุนยังคงรอรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจตัวต่อไป โดยดัชนี PPI ของเดือน เม.ย. ในวันพฤหัสบดี ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเงินเฟ้อจากการขายส่งน่าจะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับในเดือน มี.ค. ขณะที่ รายงานการค้าปลีกจะถูกเผยแพร่ในวันศุกร์
นักลงทุนในตลาดบางรายตั้งข้อสังเกตว่าปฏิกิริยาของพันธบัตรรัฐบาลต่อดัชนี CPI นั้นค่อนข้างน้อยกว่าหุ้น Patrick Leary หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดและผู้ค้าอาวุโสของ Incapital กล่าวว่า “อัตราเร่งที่เกิดขึ้นยังคงเป็นเพียงลักษณพชั่วคราว .... (มิฉะนั้น) ตลาดตราสารหนี้ควรมีความกังวลมากกว่านี้”
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 7.1 จุดพื้นฐานที่ 1.695% ในช่วงบ่ายวันพุธหลังจากเพิ่มขึ้นที่ 1.697% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับโอกาสการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยกำลังกระทบหุ้นเติบโตขนาดใหญ่บางตัวอย่างต่อเนื่อง โดยที่ Nasdaq ดิ่งหนักที่สุดในบรรดาดัชนีหลัก Quincy Krosby หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Prudential Financial กล่าวว่า “ข้อมูลชุดเดียวไม่น่าจะเปลี่ยนจุดยืนของเฟด”
แหล่งข่าว What U.S. inflation signs would cause Fed to change course? โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand