ฤดูกาลผลประกอบการของบริษัทในยุโรปเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังในสัปดาห์ที่แล้ว โดยฉันทามติของนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้น 140% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สอง รายได้ต่อหุ้นเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่เทรดเดอร์ใช้ในการวัดมูลค่าของหุ้น และเติบโตขึ้นถึง 87% ต่อปีทั่วทั้งดัชนี Stoxx 600 ทั่วยุโรปในไตรมาสแรก
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ด้านการขายได้เพิ่มประมาณการการเติบโตของ EPS ในไตรมาสที่สองขึ้นมากกว่า 50 จุดพื้นฐาน ตามข้อมูล Factset ที่รวบรวมโดยทีมกลยุทธ์ปริมาณหุ้นยุโรปของ Bank of America
ขณะเดียวกัน การคาดการณ์การเติบโตของ EPS สำหรับปี 2564 โดยรวมได้เพิ่มขึ้นจาก 35% ในเดือนมีนาคมเป็นระดับสูงสุดใหม่ 48% ด้วยไตรมาสที่เติบโตสูงสุดนักวิเคราะห์คาดว่า EPS จะลดลงในช่วงที่เหลือของปี 2564 โดยมีการเติบโต 32% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สามและ 21% ในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ผลประกอบการไตรมาสสองของดัชนีบลูชิปของยุโรปในปีนี้จึงยังคงถูกตั้งค่าให้ต่ำกว่าระดับสูงสุดก่อนเกิดโรคระบาด 2%
ในแง่ของภาคธุรกิจ ฉันทามติของนักวิเคราะห์ระบุ รถยนต์ การค้าปลีก และทรัพยากรที่แสดงการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งที่สุดในไตรมาสที่สอง สินค้าอุปโภคบริโภค พลังงานและการเงินมีส่วนสนับสนุน 29% ต่อการเติบโตที่ 48% ตามคาดการณ์สำหรับ Stoxx 600 ในปีนี้ นักวิเคราะห์ของ BofA กล่าว
ในช่วงการระบาดใหญ่ ผู้ให้กู้รายใหญ่ได้รับรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมากจากวาณิชธนกิจท่ามกลางความผันผวนและปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กิจกรรมของวาณิชธนกิจคาดว่าจะซบเซาลงในรอบการรายงานที่จะเกิดขึ้น ในสหรัฐ Goldman Sachs เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญจากตลาด IPO ที่แข็งแกร่ง ขณะที่อื่นๆ เช่น JPMorgan และ Citigroup ก็ทำผลงานได้ดีเกินความคาดหมายเช่นกัน
UBS เริ่มการรายงานในไตรมาสที่สองสำหรับธนาคารในยุโรปในวันอังคารนี้ และ Amit Goel หัวหน้าฝ่ายวิจัยตราสารทุนของยุโรปของ Barclays กล่าวว่า ผู้ให้กู้ชาวสวิสอาจได้รับประโยชน์จากความพยายามในการลดความเสี่ยงจาก Credit Suisse คู่แข่งในประเทศ
แหล่งข่าว What to look out for as Europe’s earnings season begins, according to the pros โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand
