นักลงทุนในตราสารทุนพอใจที่เฟดไม่รีบร้อนที่จะยกเลิกนโยบายกระตุ้นแต่เป็นการลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ฟิวเจอร์ส Nasdaq เพิ่ม 0.3% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ฟิวเจอร์ส S&P 500 ขยับขึ้น 0.1% ขณะที่ Nikkei ไต่ขึ้น 1.1% สู่ระดับสูงสุดในหนึ่งเดือน ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 0.3% การไต่ขึ้นของดัชนีถูกรั้งจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในจีน
การรายงานเกี่ยวกับภาคบริการและการจ้างงานของสหรัฐฯ กระตุ้นมุมมองเชิงบวก ขณะที่เฟดประกาศปรับลดการซื้อพันธบัตรลง 15 พันล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์จากเดือนนี้ และพร้อมที่จะลดหรือเร่งหากมีความจำเป็น
Jan Nevruzi นักวิเคราะห์จาก NatWest Markets กล่าวว่า “แม้ว่ามีการทำ Taper แต่แนวทางก็ไม่ร้อนแรงเหมือนกับในธนาคารแห่งแคนาดา” ธนาคารกลางของแคนาดาและออสเตรเลียได้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดตราสารหนี้ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหัน ความไม่แน่นอนของแนวโน้มของธนาคารกลางอังกฤษยังคงทำให้สเตอร์ลิงนิ่งที่ 1.3685 ดอลลาร์ โดยต่ำสุดที่ 1.3605 ดอลลาร์ ในชั่วข้ามคืน
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 93.846 เยนทรงตัวในวงกว้างที่ 114.07ยูโรดีดตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 1.1615 ดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นทำให้ทองคำปรับตัวลงที่ระดับ 1,776 ดอลลาร์ต่อออนซ์
น้ำมันร่วงลงเนื่องจากรายงานสต็อกของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น และอิหร่านประกาศการเริ่มต้นการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อีกครั้ง ขณะที่ในด้าน OPEC+ มีกำหนดการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้โดยคาดว่าจะคงอัตราการผลิต
เบรนต์ยืนที่ 81.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลงมากกว่า 4% ในชั่วข้ามคืน ขณะที่ น้ำมันดิบสหรัฐร่วงอีก 49 เซนต์ มาอยู่ที่ 80.37 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Stocks rise as Fed tapers without the tantrum โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand