หุ้นค้าปลีกเด้งรับ ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้คืน’ ลุ้นยอดขายพลิกบวก

WealthUp

Moderator
Staff member
13.jpg

ความเคลื่อนไหวของดัชนีกลุ่มหุ้นค้าปลีกในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (1-31 มี.ค.) ปรับขึ้น 11.88% นำโดย บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ปรับขึ้น 16.39% มาอยู่ที่ 69.25 บาทต่อหุ้น ถัดมา บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ปรับขึ้น 11.28% มาอยู่ที่ 14.80 บาทต่อหุ้น และ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) 11.19% มาอยู่ที่ 37.25 บาทต่อหุ้น

โดยการปรับขึ้นในครั้งนี้ได้รับแรงหนุนมาจากกระแสข่าวความชัดเจนของแผนการเปิดประเทศ (Reopening) ในช่วงที่ผ่านมา จากเดิมราคาหุ้นถูกกดดันจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เบาบางลงในช่วงการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อเนื่องจากปลายปี 2563

ในแง่ของกำไรสุทธิ คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาส 2 ปี 2564 เนื่องจากในช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 2 ปี 2563) กำไรสุทธิของกลุ่มค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการปิดประเทศ และการล็อกดาวน์ทางเศรษฐกิจ ขณะที่ในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้คาดว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวภายหลังทั่วโลกกระจายการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะเป็นปัจจัยหนุนแก่ยอดขายของกลุ่มค้าปลีกอีกแรงหนึ่ง

สำหรับมุมมองการลงทุน นักวิเคราะห์ยังคงแนะนำ “ซื้อ” แม้ว่าราคาหุ้นแต่ละตัวปรับขึ้นใกล้กับราคาเหมาะสมที่ประเมินเอาไว้แล้ว เนื่องจากกลุ่มค้าปลีกมีทิศทางการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยคาดว่ายอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะพลิกกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 2 ปี 2564 จากปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2564 ติดลบประมาณ 5-6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

ส่วนข้อเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ยิ่งใช้ยิ่งได้คืน” จากหอการค้าไทยนั้น ยังคงต้องรอติดตามท่าทีของภาครัฐต่อข้อเสนอดังกล่าว

นอกจากนี้ คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2564 จะเติบโตประมาณ 19% จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 3.45 หมื่นล้านบาท โดยทิศทางการเติบโตที่ชัดเจนจะเป็นปัจจัยหนุนให้นักวิเคราะห์พิจารณาปรับราคาเหมาะสมของหุ้นในกลุ่มต่อไป เบื้องต้น บล.กสิกรไทยมีแผนปรับเพิ่มราคาเหมาะสมของกลุ่มค้าปลีกภายหลังการประกาศงบไตรมาส 1 ปี 2564

ด้าน “อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล" ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกในไตรมาสแรกยังมียอดขายสาขาเดิมที่ติดลบ แนวโน้มไตรมาส 2 ปี 2564 คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 คาดว่าผลการดำเนินงานจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยหุ้นเด่นในกลุ่มที่ บล.ทิสโก้ แนะนำลงทุน คือ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) โดยให้ราคาเหมาะสม 44 บาทต่อหุ้น มีโอกาสปรับขึ้น (Upside) มากกว่า 10% จากราคาหุ้นปัจจุบันที่ 38 บาทต่อหุ้น ถัดมาแนะนำซื้อ CPALL ราคาเหมาะสม 75 บาทต่อหุ้น แม้ราคาหุ้นจะเริ่มมี Upside จำกัด หรือน้อยกว่า 10% จากราคาปัจจุบันที่ 69.25 บาทต่อหุ้น แต่เชื่อว่ากำไรไตรมาส 1 ปี 2564 จะออกมาดี

แหล่งข่าว หุ้นค้าปลีกเด้งรับ ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้คืน’ ลุ้นยอดขายพลิกบวก, bangkokbiznews, 01 เม.ย. 2564
 

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,180
Messages
12,435
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top