ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 พ.ย.64 ปิด 1,651.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.42 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 76,537.81 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 656.92 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด TRUE ปิด 4.38 บาท บวก 0.14 บาท, DTAC ปิดที่ 41 บาท บวก 2 บาท, EA ปิด 72.25 บาท บวก 2.25 บาท, CBG ปิด 115.50 บาท ลบ 2.50 บาท, PTTEP ปิด 118.50 บาท ลบ 0.50 บาท
บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทย และ SET Index ในช่วงที่เหลือของปี 64-65 ยังเห็น Momentum เชิงบวกต่อ โดยปัจจัยหนุนสำคัญ 2 ส่วนคือ 1.นับเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว ตั้งแต่ไทยเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.64 พบทิศทางดีต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศสะสมมีจำนวน 58,870 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อเพียง 74 ราย (อัตราติดเชื้อ 0.13%) และเป็นที่สังเกตว่าผู้เดินทางส่วนใหญ่เดินทางเข้า กทม. และจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต,สมุย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนผู้เดินทางเข้าคิดเป็นสัดส่วน 65.5%,31.3% และ 2.1% ตามลำดับ จำนวนผู้เดินทางที่เพิ่มขึ้นช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เอเซียพลัสประเมินว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้แรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวอาจยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอต่อการรักษาแรงส่งของเศรษฐกิจไทยในระยะสั้น
2.ภาครัฐจะมีโอกาสพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะการบริโภคในประเทศสอดคล้องกับท่าทีล่าสุดของรัฐที่เปิดเผยว่ากำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ โดยสภาพัฒน์ฯเผยว่าอยู่ระหว่างพิจารณาโครงการ “ช้อปดีมีคืน” คาดจะได้ข้อสรุปภายในปี 64 นี้
เอเซียพลัสประเมินความหวังของโครงการช้อปดีมีคืนยังคงมีอยู่ และถ้าพิจารณาโครงการที่เคยนำมาใช้ในอดีตพบว่าช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัดเฉลี่ยราว 3.43 หมื่นล้านบาท ขณะที่รัฐสูญเสียรายได้ภาษีเฉลี่ยเพียง 4,120 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% ของวงเงินสะพัด บ่งบอกว่าโครงการมีความคุ้มค่า แม้ปัจจุบันจะอยู่ในช่วงกลาง พ.ย.65 แล้ว ส่งผลให้หากรัฐอนุมัติโครงการจริง เชื่อว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 65 ได้ และอาจมีผลไปถึงเดือน ก.พ.65 ซึ่งจะเป็นช่วงจับจ่ายใช้สอยของเทศกาลตรุษจีนพอดี
ส่งผลให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 65 เช่น MAKRO, COM7, CPALL, CRC, BJC, HMPRO, DOHOME โดยหุ้น CPALL และ DOHOME เป็นหุ้นในพอร์ตจำลองของเอเซียพลัส!!
แหล่งข่าว หุ้นค้าปลีก!!, ไทยรัฐ, 20 พ.ย. 2564