ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาหุ้นจีนได้เผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดหลากหลายประเด็นซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างหนักหน่วง เช่น การ crackdown บริษัทเทคโนโลยี
ทำให้บริษัท เช่น Didi Chuxing ต้องดึงหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และถูกปรับ 1.2 พันล้านดอลลาร์ และส่งผลให้ IPO ของ Ant Group บริษัทในเครือของ Alibaba ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด นโยบาย zero-covid
แต่นโยบายชุดล่าสุดที่ประกาศโดยรัฐบาลจีนได้ยืนยันว่าการเติบโตของเศรษฐกิจและการลดอัตราการว่างงานได้ถูกจัดลำดับความสำคัญมากกว่าเดิมน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นจีนเมื่อมองไปข้างหน้า เช่น การออกนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 เมื่อเทียบเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ยังมีความพยายามที่จะระงับข้อพิพาทการตรวจสอบบัญชีระหว่าง PCAOB ของสหรัฐอเมริกา และ CSRC ของจีน ซึ่งทาง CSRC ตอบคำถามสำนักข่าว Bloomberg ว่าการเจรจาเป็นไปอย่าง “ตรงไปตรงมาและเป็นประโยชน์”
ซึ่งถ้าบรรลุข้อตกลงได้จะขจัดความไม่แน่นอนของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้วจีนได้ออกใบอนุญาตชุดที่3 และชุดที่ใหญ่ที่สุด สำหรับวิดีโอเกม 67 เกม รวมถึงเกมจากบริษัท ByteDance เจ้าของ แอปพลิเคชัน TikTok และ Bilibili หลังก่อนหน้านี้ หยุดการอนุมัติมา8 เดือน เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงว่าการ crackdown บริษัทเทคโนโลยีได้ลดลงอย่างชัดเจน
โดยล่าสุดสำนักข่าว FT รายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำประมาณ 2 แสนล้านหยวน หรือหรือประมาณ 29.62 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ 1.75% ต่อปี ให้กับธนาคารพาณิชย์ของรัฐ โดยรัฐสภาแห่งรัฐของจีน (State Council) ได้อนุมัติให้ธนาคารพาณิชย์ของรัฐใช้เงินกู้จาก PBoC ร่วมกับเงินกู้จากแหล่งอื่นๆเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ชะงักเพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลาม
รวมถึงการดำเนินนโยบาย zero-covid ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ตัวอย่างกองทุนที่ลงทุนในบริษัทจีน ได้แก่ PRINCIPAL CH-TECH เน้นลงทุนในหุ้นเทคจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ผ่าน iShares Hang Seng TECH ETF คิดเป็นประมาณ 70% ของกองทุน หรือ Krungsri KFACHINA ที่ลงทุนผ่าน กองทุน UBS China A Opportunity Fund เน้นลงทุน A-shares สไตล์ defensive โดยให้น้ำหนักลงทุนธุรกิจสินค้าที่มีความจำเป็นกับชีวิต (Consumer staples) และ ธุรกิจดูแลสุขภาพ (Healthcare) อยู่ที่ 24.43% และ 21.76% ตามลำดับ
แหล่งข่าว หุ้นจีนพร้อม outperform ตลาดตะวันตก?, bangkokbiznews, 30 ส.ค. 2565