หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KCE ปิด 77 บาท บวก 3.25 บาท, SCGP ปิด 62 บาท บวก 2.25 บาท, HANA ปิด 71.25 บาท บวก 1 บาท, RCL ปิด 55 บาท ลบ 1.50 บาท และ KBANK ปิด 118 บาท ลบ 0.50 บาท
หุ้นไทยพลิกกลับมาปิดในแดนลบในช่วงบ่ายก่อนปิดตลาด นักลงทุนกลับมาผวาการระบาดของโควิดในประเทศที่กระจายมากขึ้น กดดันหุ้นท่องเที่ยวและบริการ แม้ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ขณะที่มีกระแสข่าวว่า หลายไฟลท์ถูกยกเลิกมาเมืองไทย ในวันที่ 1 ก.ค.ทั้งจากความกังวลโควิดและพบว่ามีปัญหาติดขัดทางเทคนิคเกี่ยวกับเอกสารการอนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว!!
บล.ทิสโก้ ประเมินแนวโน้มหุ้นไทยเดือน ก.ค. ยังผันผวนจากปัจจัยภายในและต่างประเทศ มีโอกาสเห็นการพักฐานของตลาด มองดัชนีอัปไซด์จำกัด ไม่เกิน 1,610 จุด ขณะที่มีแนวรับที่ 1,550 จุด โดยความเสี่ยงที่จะทำให้ดัชนีปรับตัวลงมาจากการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศระลอก 3 และอาจเข้าสู่ระลอกที่ 4 โดยมีสายพันธุ์เดลตา ที่แพร่เชื้อได้เร็วและมีความรุนแรงมากเข้ามา ขณะที่การฉีดวัคซีนยังล่าช้ากว่าเป้าหมาย
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสำคัญฯ ในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น จากนโยบายที่ผ่อนคลายในปัจจุบัน ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการส่งสัญญาณลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
แนะกลยุทธ์ลงทุน ไตรมาส 3/64 เน้นหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ผลบวกจากการระบาดระลอกใหม่ ได้แก่ หุ้นโรงพยาบาลและหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า หุ้นส่งออก ได้แก่ JWD-KCE โดยเป็นการเปลี่ยนคำแนะนำจากเดิม ที่เน้นลงทุนหุ้นวัฏจักร และหุ้นคอมมูนิตี้ ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มาเป็นหุ้น Defensive และหุ้นที่มี value เฉพาะตัว
ด้านเทคนิคให้กรอบแนวรับสำคัญ 2 จุด แนวรับแรกอยู่ที่ 1,570 จุด แนวรับต่อมา 1,550 จุด ส่วนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,610 จุด โดยหากการฉีดวัคซีน ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.เร่งตัวขึ้นได้วันละ 4–5 แสนโดส มองว่าดัชนีมีโอกาสทะลุ 1,610 จุด ขึ้นไปได้ที่ 1,630 จุด
แหล่งข่าว หุ้นผันผวน–พักฐาน!!, ไทยรัฐ, 01 ก.ค. 2564