Stoxx 600 ของยุโรปปิดเซสชั่นร่วงลง 0.3% โดยนักขุดร่วงลง 2.8% ตลาดหุ้นหลักส่วนใหญ่จบลงด้วยสีแดง Benchmarkลดลงประมาณ 0.7% รายสัปดาห์หลังจากทำสถิติสูงสุดในวันจันทร์
ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ดัชนีสำคัญของสหรัฐร่วงลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคแย่เกินคาดได้บดบังตัวเลขยอดค้าปลีกและรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนอยู่ที่ 80.8 ในช่วงครึ่งแรกของเดือนกรกฎาคม ลดลงจาก 85.5 เมื่อเดือนที่แล้ว
การสำรวจแสดงให้เห็นการคาดการณ์เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.8% ในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนมิถุนายนจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในรอบเกือบ 12 ปี
ในเอเชีย หุ้นปิดทำการเมื่อวันศุกร์ ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงนโยบายการเงินและลดระดับการคาดการณ์ GDP ที่แท้จริงสำหรับปี 2564 เป็น 3.8% จาก 4% ที่คาดไว้ในเดือนเมษายน
อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนชะลอตัวลงในเดือนมิถุนายน โดยราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 1.9% y/y หลังจากเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนพฤษภาคม จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งทวีปยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยหลายประเทศในยุโรปต้องกลับมาใช้ข้อจำกัดทางสังคมอีกครั้ง ขณะที่สหราชอาณาจักรคลายข้อจำกัดแม้มีจำนวนผู้ติดเชื้อถึง 51,870 รายในวันศุกร์
ฤดูกาลรายงานผลประกอบการในยุโรปเริ่มด้วย Richemont, Rio Tinto และ Ericsson ที่รายงานข่าวเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ Burberry ปรับปรุงการซื้อขายไตรมาสแรกที่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวได้ หุ้น Ericsson ร่วงลง 9.4% สู่จุดต่ำสุดของ Stoxx 600 เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากยอดขายที่ลดลงในจีนทำให้กำไรหลักต่ำกว่าที่ตลาดประมาณการเล็กน้อย ที่จุดสูงสุดของ Benchmark หุ้นของ Sinch เพิ่มขึ้น 14.6% หลังจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
แหล่งข่าว European stocks close lower as traders watch earnings, delta variant; Ericsson down 9% โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand