ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 ก.พ. 65 ปิดที่1,703.00 จุด ลดลง 0.16 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 112,335.48 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 8,461.14 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 166.50 บาท บวก 4 บาท, BBL ปิด 148 บาท บวก 3 บาท, KCE ปิด 62 บาท ลบ 2.75 บาท, SCB ปิด 135.50 บาท บวก 1 บาท, PTT ปิด 40.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
บล.เอเซีย พลัส มองหุ้นไทยระยะสั้นพักฐาน ช่วง 1,700 จุด เป็นระยะที่รอคอนเฟิร์มเงินเฟ้อสหรัฐฯ ส่วนในไทยให้ติดตามโควิด และการเมืองแต่ระยะกลางมองว่าไปต่อได้ ให้ต้านไว้ที่ 1,730 จุด
แถมประเมินว่าฟันด์โฟลว์จากนักลงทุนต่างชาติ ยังมีโอกาสไหลเข้าต่อ มี 4 เหตุผลที่เป็นแรงขับเคลื่อน คือ สถานะการถือครองหุ้นต่างชาติในบ้านเรา ยังต่ำกว่าปกติมากโดยสัดส่วนการปิดโอนต่ำเพียง 21% เทียบกับจุดสูงสุดที่ 30%, โครงสร้างตลาดหุ้นไทยราว 2 ใน 3 เป็นหุ้น Commodity + Old Economy ซึ่งอยู่ในกระแสลงทุน, คาด กนง. คงดอกเบี้ย 0.5% ต่อเนื่อง ทำให้ Market Earning Yield Gap ขยายกว้าง
และ EPS Growth และ GDP Growth ไทยอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ปัจจุบันสัดส่วนการซื้อขายของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 42.3% นับเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักในการขับเคลื่อน SET Index
แนะกลยุทธ์ถือหุ้นเท่าเดิม เน้น กลุ่มแบงก์ KBANK, BBL ค้าปลีก CPALL, MAKRO โรงพยาบาล BH รับเหมาก่อสร้าง STEC และวัสดุก่อสร้าง SCC
แหล่งข่าว หุ้นรับเงินฝรั่งไหลเข้า!!, ไทยรัฐ, 11 ก.พ. 2565