ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 พ.ย.64 ปิดที่ 1,644.60 จุด เพิ่มขึ้น 0.59 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 83,424.17 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,351.62 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด TRUE ปิด 4.24 บาท บวก 0.10 บาท, SAWAD ปิด 67.50 บาท บวก 4.25 บาท, JMT ปิด 58 บาท บวก 1.50 บาท, SCGP ปิด 63.75 บาท ลบ 0.25 บาท
แม้ต่างชาติจะมีสลับขายสุทธิออกมาในบางวัน แต่ทิศทางต่างชาติยังคงซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องล่าสุด บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ตอกย้ำ Fund Flow ไหลเข้าไทย ระบุว่า การระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกกลับมาน่ากังวลเล็กน้อย จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบ 5 แสนราย แต่หากพิจารณาแยกเป็นรายทวีปพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาจากทวีปยุโรปเป็นส่วนใหญ่ กดดันให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 16 เดือน ผลักดันให้ Dollar Index ยังแข็งค่าต่อเนื่องในรอบ 16 เดือนเช่นกัน
ขณะที่สถานการณ์ในไทยดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าการเปิดประเทศมาแล้ว 2 สัปดาห์ มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 54,939 ราย แต่ตรวจพบผู้ติดเชื้อเพียง 65 ราย เพียง 0.12% เท่านั้น จากสถานการณ์ COVID-19 ของไทยที่ค่อนข้างดีกว่า และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวหลังจากนี้หนุนให้ค่าเงินบาทอยู่ในทิศแข็งค่า แม้ Dollar Index จะแข็งค่ามากสุดในรอบ 16 เดือน ช่วยให้ Fund Flow ยังมีแนวโน้มไหลเข้าไทยได้ต่อ
ส่วนผลกำไรบริษัทจดทะเบียนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q64 และกำไรโตเด่น 4Q64 หนุนให้ SET Index มีโอกาสขยับขึ้นได้ดีในช่วงต่อจากนี้ เอเซียพลัสจึงค้นหาหุ้นที่เป็นกลุ่มผู้นำตลาด ปรับตัวขึ้นเด่นในเดือนนี้มี 3 กลุ่มหลักคือ กลุ่มกำไรผ่านพ้นจุดต่ำสุด 3Q64 : MEDIA, CONS, TOURISM, TRANS กลุ่มกำไรฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจ หรือกำไร 4Q64 เติบโตเด่น : BANK, FIN, COMM, HELTH, PROP กลุ่มเทคโนโลยี : ICT, ETRON, AUTO
แสดงให้เห็นว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าว มีทั้งแรงผลักดันจากฐานธุรกิจที่แข็งแรงขึ้นพร้อม Fund Flow ทั้งในและต่างประเทศ ที่เข้ามาสะสมต่อเนื่องน่าจะเป็น Momentum ช่วยผลักดันให้ Outperform เด่นกว่าตลาดต่อได้ในช่วงที่เหลือของปี
Toppicks แนะหุ้นกำไร 4Q64 เข้าสู่ช่วง Peak อย่าง TASCO, TIDLOR และหุ้นกำไร 3Q64 พ้นจุดต่ำสุด ERW!!
แหล่งข่าว หุ้นเด่นเอเซียพลัส!!, ไทยรัฐ, 18 พ.ย. 2564