หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BANPU ปิด 16 บาท บวก 0.70 บาท, IVL ปิด 41.25 บาท ลบ 2.25 บาท, KBANK ปิด 124.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, GUNKUL ปิด 4.26 บาท ลบ 0.12 บาท และ AAV ปิด 3.10 บาท บวก 0.30 บาท
บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของไทย จะยังอยู่ในระดับผ่อนคลายต่อไป คือ คาดการประชุม กนง. วันที่ 23 มิ.ย.นี้ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำที่ 0.5% ตามเดิม และจะคงในระดับนี้ต่อไปถึงสิ้นปี 64 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงสำคัญคือ การระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 3 ซึ่งกดดันให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าลง
มองว่าตัวแปรสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยคือการกระจายวัคซีน COVID-19 เอเซียพลัส สอดคล้องกับคำแถลงของนายกรัฐมนตรี ที่ระบุถึงแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ภายใน 120 วัน โดยเริ่มนำร่อง Phuket Sandbox ในวันที่ 1 ก.ค.64
คาดจะช่วยให้ Fund Flow (โดยเฉพาะจากในประเทศ) ไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) เข้าไปสู่สินทรัพย์เสี่ยง (Risk Asset) เช่น ตลาดหุ้นมากขึ้น หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง เช่น กลุ่มการบิน AOT, AAV กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม CENTEL, ERW, MINT กลุ่มขนส่งทางราง BEM กลุ่มค้าปลีกและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ CPN, BJC, CPALL, CRC กลุ่มธนาคาร KBANK, BBL กลุ่มการเงิน-ประกัน BAM, BLA กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, PR9, BCH และ BH เป็นต้น
บล.ทรีนีตี้ มีมุมมอง ‘เป็นกลาง’ ต่อประเด็นการแถลงของนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งเป้าเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วันต่อจากนี้ ซึ่งตรงกับช่วงกลาง ต.ค. เนื่องจากประเด็นสำคัญจะไม่ได้อยู่ที่การเปิดหรือไม่เปิด แต่น่าจะอยู่ที่ Appetite และ Willingness ของนักลงทุน นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนในประเทศที่จะกล้าเดินทางมากขึ้นหรือไม่มากกว่า หากเปิดประเทศแต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังสูง หรือจำนวนผู้ฉีดวัคซีนยังต่ำ นโยบายนี้ก็อาจไม่ได้มีผลในช่วงแรก
แต่ข่าวนี้ทำให้เกิด Sentiment เชิงบวกระยะสั้น ต่อกลุ่มหุ้นท่องเที่ยว AOT, AAV, BA, MINT, CENTEL, ERW กลุ่มโรงพยาบาลที่อิงผู้ป่วยต่างชาติ BH, BDMS กลุ่มค้าปลีกที่อิงนักท่องเที่ยว CPALL และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมเลือก AMATA, ROJNA, WHA เด่น!!
แหล่งข่าว หุ้นเปิดเมืองเด้งต่อ!!, ไทยรัฐ, 18 มิ.ย. 2564