หุ้นเอเชียร่วงลงในวันพุธโดยติดตามการลดลงในวอลล์สตรีทเนื่องจากนักลงทุนกังวลกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งสูงขึ้นและดันค่าเงินดอลลาร์ทำจุดสูงสุดในรอบ 10 เดือน ท่ามกลางกระแสการปรับลด QE และฝ่ายบริหารไบเดนที่ติดอยู่กับการเจรจาเพดานหนี้
พันธบัตร Benchmark อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 25 คะแนนพื้นฐานในห้าเซสชันและอยู่ที่ 1.5513% โดยแตะระดับสูงสุดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 93.752
“เราคิดว่า (ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี) มีแนวโน้มจะอยู่ในช่วง 1.5%-1.75%” Daniel Lam นักยุทธศาสตร์ของStandard Chartered เขายังเสริมว่า อัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นนั้นได้รับแรงหนุนจากการเตรียมลด QE ของสหรัฐภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะผลักดันการเปลี่ยนจากหุ้นเติบโตไปสู่หุ้นมูลค่า
อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่ากระทบหุ้นเอเชียในการซื้อขายช่วงแรกๆ ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นลดลง 1.43% ดัชนีออสเตรเลียลดลง 1.5% และดัชนีเกาหลีใต้ลดลง 2.06% ดัชนีฮ่องกงลดลง 1.2% และบลูชิปของจีนลดลง 1.1% Nikkei ร่วงลง 2.35%
ในชั่วข้ามคืน ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของสหรัฐร่วงลงเกือบ 2% โดยเป็นการลดลงรอบวันมากที่สุดของดัชนี S&P 500 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และดัชนี Nasdaq นับตั้งแต่มีนาคม อย่างไรก็ตามดัชนี S&P 500 e-minis ของหุ้นสหรัฐ ยังคงขยายตัวได้ที่ 0.25% ในชั่วโมงเอเชีย
หุ้น China Evergrande Group เพิ่มขึ้นมากถึง 12% หลังจากที่กล่าวว่ามีแผนจะขายหุ้นมูลค่า 9.99 พันล้านหยวน (1.5 พันล้านดอลลาร์) โดยบริษัทฯ มีกำหนดชำระดอกเบี้ยพันธบัตรจำนวน 47.5 ล้านดอลลาร์
ในตลาดสกุลเงิน ดอลลาร์แข็งขึ้น เงินเยนซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2563 ขณะที่ เงินยูโรแตะระดับต่ำสุดในรอบเดือนในชั่วข้ามคืน
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสามปีเมื่อวันก่อน เบรนต์ร่วงลง 0.83% สู่ 78.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล WTI ลดลง 1.09% สู่ 74.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำขยับสูงขึ้น สปอตทองอยู่ที่ 1,735.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.1% จากระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อวันก่อน
แหล่งข่าว Asian shares stumble as U.S. yields, dollar hold firm โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand