Jettarin.Su
Moderator
หุ้นในเอเชียทำสถิติสูงสุดในวันศุกร์จากความเป็นไปได้ของมาตรการกระตุ้นของสหรัฐฯ ขณะที่ ความหวังของวัคซีนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกและหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ดัชนี MSCI ของหุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าจุดสูงสุดในวันที่ 25 พฤศจิกายน ขณะที่ Nikkei ของญี่ปุ่นลดลง 0.4% จากการขายทำกำไร
ในนิวยอร์ก S&P 500 ลดลง 0.06% ในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ Wall Street Journal รายงานว่า Pfizer ปรับลดเป้าหมายการผลิตวัคซีนเนื่องจากอุปสรรคด้านห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตาม ในการซื้อขายช่วงต้นวันศุกร์ ฟิวเจอร์ส S&P500 ได้เพิ่มขึ้น 0.3%
แผนการช่วยเหลือจากไวรัสโคโรนามูลค่า 908,000 ล้านดอลลาร์ได้รับเสียงตอบรับจากรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี Norihiro Fujito หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Mitsubishi UFJ Morgan Stanley Securities กล่าวว่า แพ็คเกจมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ดูเหมือนจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับเปลี่ยนแนวทางของแผนการซื้อสินทรัพย์ในปลายเดือนนี้ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการซื้อพันธบัตรในสัปดาห์หน้า
พัฒนาการของวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของรายได้ขององค์กรจะเร่งตัวขึ้นในปีหน้า
สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อมากถึง 14 ล้านราย โดยมีผู้ป่วยมากกว่า 100,000 รายที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แคลิฟอร์เนียออกคำสั่งให้ประชาชนอยู่ที่บ้าน
Fujito จาก Mitsubishi UFJ กล่าวว่า ตลาดหุ้นตื่นตัวราวกับว่าโลกได้เอาชนะโรคร้ายไปแล้ว แต่คงใช้เวลาก่อนสักพักก่อนที่วัคซีนจะกระจายไปทั่วทุกมุมโลกและการติดเชื้อจะเริ่มลดลง
เงินดอลลาร์สหรัฐสูญเสียพื้นที่ เช่นเดียวกับสกุลเงินที่มีความเสี่ยงและมีสภาพคล่องน้อยกว่า
ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.2142 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 ขณะที่ เงินเยนอยู่ที่ 103.85 ต่อดอลลาร์โดยถือครองกำไร 0.5% ในวันก่อนหน้า
เงินปอนด์เปลี่ยนมือไปที่ 1.3453 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในวันพฤหัสบดี โดยผู้ค้ายังคงให้ความสำคัญกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ขณะที่ เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปกล่าวว่า ข้อตกลงดใกล้เข้ามามากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสวนทางกับแหล่งข่าวของรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่เตือนว่า โอกาสในการที่จะมีข้อตกลงน้อยลง
ดัชนีสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ MSCI อยู่ที่ระดับสูงสุด 2 ปีครึ่ง โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากช่วงเดือนมีนาคม
ราคาน้ำมันได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่ OPEC+ ตกลงที่จะลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงเล็กน้อยจากเดือนมกราคม 500,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd)
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 49.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม และล่าสุดอยู่ที่ 49.59 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Asian shares hit record high as U.S. stimulus seen within reach โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand