หุ้นเอเชียร่วงลงในวันพฤหัสบดี (15/12/2022) ติดตามการร่วงลงของวอลล์สตรีท หลังดอทพลอตเฟดเผยให้เห็นวัฏจักรเข้มงวดจะอยู่อีกนาน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลง ผู้ค้ากังวลภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้น อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐยังคงตกต่ำและเส้นโค้งกลับด้านลึกเนื่องจากผู้ค้ายังคงกังวลว่านโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นจะทำให้เกิดภาวะถดถอย ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก
น้ำมันดิบยังคงทรงตัวหลังจากดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย OPEC และ IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์จะฟื้นตัวในปีหน้าจากเศรษฐกิจจีนที่กลับมาเปิดอีกครั้ง
ดัชนี Nikkei อ่อนตัวลง 0.17% ขณะที่ Kospi ลดลง 0.92% และดัชนีหุ้นของออสเตรเลียลดลง 0.4% ดัชนี Hang Seng ร่วงลง 1.71% และดัชนีบลูชิปของจีนลดลง 0.51% ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกร่วงลง 0.91% หลังจากไต่ขึ้นไปสูงถึง 160.37 ในช่วงก่อนหน้า
ในชั่วข้ามคืน ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.61% แต่ฟิวเจอร์สดัชนี e-Mini พลิกกลับ 0.06% ช่วงเริ่มในวันพฤหัสบดี
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวหลังการประชุมนโยบายว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในปีหน้า แม้เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยก็ตาม
นักวิเคราะห์ของ TD Securities เขียนไว้ในบันทึกของลูกค้า “เฟดยอมรับในการประชุมครั้งนี้ว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่นานกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก ทำให้จำเป็นต้องมีจุดยืนเชิงนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2023”
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีร่วงลงต่ำกว่า 3.5% ในการซื้อขายที่โตเกียว อัตราผลตอบแทน 2 ปีก็ลดลงต่ำกว่า 4.24%
ดัชนีดอลลาร์อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในชั่วข้ามคืนที่ 103.44 และล่าสุดแข็งค่าขึ้นอีก 0.09% อยู่ที่ 103.75 ยูโรอ่อนค่าลง 0.15% อยู่ที่ 1.0664 ดอลลาร์ และใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 เดือนของวันพุธที่ 1.0695 ดอลลาร์ สเตอร์ลิงขยับลง 0.19% สู่ระดับ 1.2405 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Asian stocks sag with dollar as hawkish Fed spurs recession fears โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
