1 ใน 3 ของบริษัทใน S&P 500 จะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในสัปดาห์นี้ อาทิ Facebook Inc, Tesla Inc, Apple Inc, Alphabet Inc, Microsoft Corp และ Amazon.com
โอลิเวอร์ โจนส์ นักเศรษฐศาสตร์การตลาดอาวุโส Capital Economics ระบุว่า รายได้ของสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่เกิดการระบาดใหญ่ในทันที ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ส่วนใหญ่
Nasdaq Futures เพิ่มขึ้น 0.1% ในการซื้อขายช่วงต้น ขณะที่ S&P 500 Futures ทรงตัว
กองทุนต่างเทลงไปที่วอลล์สตรีท เมินตลาดเอเชีย ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มไซด์เวย์ ตั้งแต่เดือนมีนาคมและเพิ่มขึ้นเพียงเศษเสี้ยวในวันจันทร์ Nikkei ดีดตัวขึ้น 1.6% ในการซื้อขายช่วงแรก ดัชนีเกาหลีใต้ฟื้นตัวจากความต้องการหุ้นเทคโนโลยี
สัปดาห์นี้ยังเต็มไปด้วยข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาทิ GDP ไตรมาสที่สองที่คาดว่าจะเติบโต 8.6% ต่อปี ขณะที่ เงินเฟ้อคาดว่าเพิ่มขึ้น 3.7% ต่อปีในเดือนมิถุนายน ธนาคารกลางสหรัฐจะประชุมกันในวันพุธ และแม้ว่าจะไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
สกุลเงินเดียวมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่เดือนมิถุนายนและแตะระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือนที่ 1.1750 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุดอยู่ที่ 1.1770 ดอลลาร์และจะทดสอบระดับต่ำสุดในปี 2564 ที่ 1.1702 ดอลลาร์ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกับค่าเงินเยนที่ระดับ 110.57 แต่ยังไม่ถึงจุดสูงสุดล่าสุดที่ 111.62 การอ่อนค่าของเงินยูโรทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็น 92.891 ห่างจากระดับต่ำสุดเดือน พ.ค. ที่ 89.533 ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นชดเชยผลตอบแทนพันธบัตรที่ร่วงลง ทำให้ทองคำอยู่ที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้นเบรนต์ซื้อขายเพิ่มขึ้น 23 เซนต์ที่ 74.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 20 เซนต์เป็น 72.27 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Asia stocks sidelined as funds flock to Wall St โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand