การซื้อขายตลาดหุ้นไทยปิดตลาด (7 ต.ค. 64) เวลา 12.30 น. ดัชนีปิดอยู่ที่1,633.86 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 14.38 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.89 % มูลค่าการซื้อขาย 58,527.23 ล้านบาท
โดยระหว่างวันดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1637.54 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ 1,624.58 จุด โดยมี 5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ KBANK ปิดที่ 141.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.04% TRUE ปิดที่ 4.02 บาท ลดลง 0.99%
BANPU ปิดที่ 14.40บาท ลดลง 0.69% SCB ปิดที่ 124.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.05% และPTT ปิดที่ 39.75 บาท ลดลง 0.62%
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตาม Sentiment บวกจากต่างประเทศ หลังผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกันระบุว่าจะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐออกไปจนถึงเดือน ธ.ค.เพื่อช่วยให้สหรัฐหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้และวิกฤติเศรษฐกิจไปจนกว่าพรรคเดโมแครตจะสามารถผ่านร่างกฎหมายก่อนสิ้น
ขณะที่ในประเทศ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตัวเลขผู้ติดเชื้อทรงตัว และยังมีปัจจัยบวกจากความคาดหวังว่าไทยจะสามารถนำเข้ายารักษาโควิด-19 ตัวใหม่ หรือ ยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) มาวิจัยทางคลีนิคได้ภายในเดือนธ.ค.นี้ ก่อนใช้จริงในเดือน ม.ค.65 ทำให้ส่งผลดีต่อการกลับมาเปิดเมืองได้มากขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ นำโดยกลุ่มแบงก์ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโดยตรง และยังเป็นตัวหลักที่ช่วยผลักดันดัชนีเช้านี้
แหล่งข่าว หุ้นแบงก์หนุนดัชนียืนแดนบวกเพิ่มขึ้น 14 จุด, bangkokbiznews, 07 ต.ค. 2564
