ตลาดหุ้นทั่วโลกและดอลลาร์ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26/01/2023) หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง พร้อมกับการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อ
GDP ของสหรัฐในไตรมาสที่ 4 เติบโตอยู่ที่ 2.9% ต่อปีเหนือคาดของตลาดเล็กน้อยจากการใช้จ่ายซื้อสินค้าของผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุ ในด้านข้อมูลเงินเฟ้อออกมาดีเช่นกัน โดยดัชนีการบริโภคส่วนบุคคลชะลอตัวลงที่ 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีจาก 2.3% ในไตรมาสก่อนหน้า
ดัชนี MSCI หุ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้น 0.90% แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 5 เดือน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.246%
“ตลาดกำลังวางโอกาสสำหรับการดำเนินนโยบายของเฟด พร้อมคาดว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะยุติในปีนี้” James Ragan ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการบริหารความมั่งคั่งของ DA Davidson เสริมว่าประธานเฟดไม่น่าจะส่งสัญญาณที่มีนัยสำคัญใดๆ ในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ด้านตลาดฟิวเจอร์สกำลังวางโอกาสถึง 94.7% สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ 25 จุด และอัตราดอกเบี้ยหลักอยู่ที่ 4.45% ในเดือนธันวาคมปีหน้าหรือต่ำกว่า 5.1% ที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ไว้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 3.6 จุดอยู่ที่ 3.498% และช่องว่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 เดือนและธนบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเหลือ -117.9 จุด
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.61% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.10% และดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.76% ในยุโรป ดัชนี STOXX 600 ปิดขึ้น 0.42%
ในชั่วข้ามคืน ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยหุ้นฮ่องกงเป็นผู้นำหลังจากวันหยุดเทศกาลตรุษจีนเป็นเวลา 3 วัน
ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.1% โดยอยู่ในทิศทางการเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่อง
น้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดีจากคาดการณ์ว่าอุปสงค์จะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่จีนเปิดพรมแดนอีกครั้งและข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีของสหรัฐ สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบของสหรัฐดีดตัวขึ้น 86 เซนต์ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ปิดที่ 87.47 ดอลลาร์
สัญญาฟิวเจอร์สทองคำของสหรัฐร่วงลง 0.7% อยู่ที่ 1,930 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Stocks, dollar gain on soft landing hopes โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
