ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ต.ค.64 ปิดที่ 1,640.97 จุด ลดลง 2.67 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 84,963.95 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,152 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด AOT ปิด 67.50 บาท ลบ 0.25 บาท, U ปิด 1.95 บาท บวก 0.23 บาท, TRUE ปิด 4.24 บาท ลบ 0.06 บาท, KBANK ปิด 140.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, CPALL ปิด 64.50 บาท บวก 0.50 บาท
นักลงทุนเทขายทำกำไรและลดความเสี่ยง แม้มีข่าวบวก ศบค.เตรียมเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 17 จังหวัด ปรับลดพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด เหลือ 23 จังหวัด ตั้งแต่ 16 ต.ค.64 ปรับลดเวลา Curfew ในพื้นที่สีแดงเป็นเวลา 23.00-03.00 น. ปรับเวลาปิดทำการร้านอาหาร-ห้าง-โรงภาพยนตร์ เป็นไม่เกิน 22.00 น. ระบบขนส่งสาธารณะบรรจุได้ครบ 100% แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ยังทรงตัว
บล.เอเซียพลัส ประเมินเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Restart Economy เช่น CENTEL, CPN, CPALL, CRC, MINT, AOT, MAJOR, KBANK, SCB ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยหนาตา โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวในหุ้นเปิดเมือง บล.เอเซียพลัสระบุว่า ช่วงที่สถานการณ์ Covid-19 ดีขึ้น หรือมีสัญญาณการเปิดประเทศที่ชัดเจนขึ้นมักจะหนุนให้ Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเสมอ
หากพิจารณาลงไปในรายละเอียดจากการซื้อขายผ่าน NVDR พบว่า มียอดซื้อสุทธิกว่า 4.47 พันล้านบาท และหุ้นที่ถูกซื้อสุทธิส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นในธีมเปิดเมืองเกือบทั้งสิ้น โดยหุ้นที่ถูกซื้อสุทธิสูงสุด คือ AOT 2.58 พันล้านบาท (สัดส่วน 58% ของแรงซื้อทั้งหมด) ตามด้วย CPALL 762 ล้านบาท (สัดส่วน 17% ของแรงซื้อทั้งหมด), TIDLOR 253 ล้านบาท, CPN 224 ล้านบาท เป็นต้น
ทั้ง Momentum ต่างชาติที่เริ่มกลับมาซื้อสุทธิหุ้นเปิดเมือง, การขยายการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่องจากทางภาครัฐ และแนวโน้มค่าเงินบาทที่พลิกกลับมาแข็งค่าช่วงสั้น ล้วนหนุนให้หุ้นเปิดเมืองมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ เช่นเดียวกับพอร์ตจำลองของเอเซียพลัสที่ล่าสุดแนะนำหุ้นเปิดเมือง บริษัทสัดส่วน 90% ของพอร์ต คือ AOT, CPALL, CRC, CPN, CENTEL, MINT, KBANK, SCB, MAJOR และเป็นหุ้นที่มีการซื้อผ่าน NVDR มากสุด 21 อันดับแรกถึง 8 ใน 9 บริษัท
เลือกหุ้นเปิดเมืองที่ได้ประโยชน์จากการลดระยะเวลา Curfew และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มหนุนรายได้เพิ่มมากขึ้น อย่าง CPALL, CRC, CENTEL เป็น Toppick!!
แหล่งข่าว หุ้น Restart Economy!!, ไทยรัฐ, 14 ต.ค. 2564