รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75-1% เงินบาทอาจอ่อนน่าค่าทะลุ 37.30/50 บาทต่อดอลลาร์ได้ กดดันเงินเฟ้อสูงต่อเนื่อง
โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน "เงินบาทอ่อนค่า" แล้ว เกือบ 10% อ่อนค่าสูงสุดในรอบ 16 ปี เงินทุนไหลออกจากการเร่งนำเข้าทองคำจากการที่ราคาทองคำอ่อนตัวลงในช่วงก่อนหน้านี้ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันเงินบาท นักลงทุนต่างชาติยังทะยอยเทขายสินทรัพย์ทางการเงินของไทยทั้งหุ้นและตราสารหนี้
การเทขายสินทรัพย์ทางการเงินของนักลงทุนต่างชาติอาจทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับฐานลงไปอีกระยะหนึ่ง เงินบาทและเงินหยวนนั้นมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient) เป็นบวก เงินบาทและเงินหยวนจึงอ่อนค่าไปในทิศทางเดียวกัน
หากแบงก์ชาติปรับขึ้นดอกเบี้ยตามธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 28 ก.ย.นี้ อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจขนาดย่อมและเล็กเพิ่มเติมจากต้นทุนทางการเงิน ภาระหนี้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น ภาระหนี้ของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ความสามารถในการชำระหนี้ด้อยลงสำหรับกิจการที่ยอดขายยังไม่ฟื้นตัว
ทั้งนี้ ดอกเบี้ยนโยบายของไทยในระดับ 1.25% จะมีผลต่อการจัดการเงินเฟ้อได้ไม่มาก และจะไม่ช่วยเปลี่ยนทิศทางของการอ่อนค่าของเงินบาทแต่อย่างใด
พร้อมคาดว่าอาจจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเกือบ 10 ล้านคนในปีนี้ กระแสเงินไหลเข้าจากภาคท่องเที่ยว การเกินดุลการค้า เกินดุลบัญชีเดินสะพัด และเม็ดลงทุนไหลเข้าในตลาดการเงินจะทำให้เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าได้ในช่วงปลายปีและต้นปีหน้าที่ระดับ 34-35 บาทต่อดอลลาร์
แหล่งข่าว "อนุสรณ์ ธรรมใจ" มองเงินบาทอ่อนค่าแตะ 37.50 บาท หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยกลางสัปดาห์นี้, bangkokbiznews, 18 ก.ย. 2565