นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ผู้คนอาจจะกังวลกับโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือ recession ในสหรัฐฯ ที่สะท้อนผ่าน ส่วนต่างระหว่างบอนด์ยีลด์ระยะสั้น กับบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง จนติดลบ หรือเกิดภาวะ Inverted Yields Curve (IYC) ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา IYC ก็เป็นสัญญาณที่ดี ที่จะสะท้อนถึงโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในอนาคต
ล่าสุดตลาดการเงินยังเผชิญความไม่แน่นอนจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ยิ่งทำให้ ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ทางประธานเฟดได้กล่าวถึง IYC ที่เกิดขึ้นล่าสุดว่า เป็นสิ่งที่เฟดจับตาอยู่ แต่เฟดยังไม่ได้กังวลกับการเกิด IYC ไม่ว่าจะเป็นส่วนต่างบอนด์ยีลด์ 2ปี กับ 10ปี ที่ตลาดมักใช้ดู หรือ ส่วนต่างบอนด์ยีลด์ 5 ปี กับ 30 ปี เพราะเฟดมองว่า ข้อมูลที่สะท้อนถึงความเสี่ยงการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ดีกว่า ส่วนต่างบอนด์ยีลด์ที่ตลาดใช้กันทั่วไป คือ ส่วนต่างระหว่างคาดการณ์ล่วงหน้า 18 เดือน ของบอนด์ยีลด์ 3 เดือน กับ บอนด์ยีลด์ 3 เดือนในปัจจุบัน หรือที่เฟดเรียกว่า Near-term forward spread
ซึ่งหากพิจารณา Near-term forward spread ณ ปัจจุบัน ที่ระดับเกือบ 3.00% ก็ยิ่งสะท้อนว่า เฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง และยังไม่ได้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หากประเมินจากสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ตอนนี้ก็ถือว่า โอกาสเกิด Recession นั้นยังมีโอกาสไม่มาก เพราะเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ เฟดกล้าที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ หากพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจโลก ขณะที่ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนล่าสุด ก็ส่งผลกระทบให้การฟื้นตัวอาจสะดุดลงบ้าง แต่ยังไม่ถึงกับกดดันให้เศรษฐกิจถดถอย
อย่างไรก็ดี แม้โอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะไม่สูงมาก แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย คือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งหากเศรษฐกิจชะลอต่อเนื่อง จนซบเซาหนักก็อาจเข้านิยาม Stagflation ได้
ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดก็ไม่ควรกังวลกับโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Stagflation จนเกินไป ในมุมการลงทุน สินทรัพย์บางประเภทก็สามารถปรับตัวสวนทางภาพเศรษฐกิจที่ชะลอลงได้ โดยในฝั่งหุ้น นักลงทุนอาจเลือกหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอำนาจในการต่อรองราคา หรือ pricing power ที่สูง อาทิ อุตสาหกรรม Healthcare หรือ Consumer Staples รวมถึง Real Estate ซึ่งในส่วนของ Real Estate สินทรัพย์ที่น่าสนใจ คือ REITs เพราะภาคอสังหาฯ เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของ COVID-19 ทำให้ในเชิงราคาหรือ Valuation ของอสังหาฯ ในหลายพื้นที่ อาทิ REITs ในไทยก็ยังมีความน่าสนใจอยู่มาก
แหล่งข่าว อย่ากลัว เศรษฐกิจถดถอย (Recession) เกินไป, bangkokbiznews, 03 เม.ย. 2565