นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า ธนาคารจะชะลอการฟ้องลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียออกไป 4 เดือน เพื่อช่วยลดความกังวลให้กับลูกหนี้ ตามนโยบายรัฐบาลเรื่องแก้ไขปัญหาหนี้สินของภาคประชาชน
ทั้งนี้ มาตรการชะลอหรือผ่อนปรนการดำเนินการทางกฎหมายต่อลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโควิด-19 ครั้งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อช่วยลดภาระลูกหนี้ที่กลายเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 31 ธ.ค.2564 ประกอบด้วยสินเชื่อ 4 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อบุคคล-รายย่อย สินเชื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย สินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา และ สินเชื่อธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท โดย ธนาคารจะชะลอการฟ้องคดีต่อศาลไว้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2565
ทั้งนี้ ได้รวมถึงลูกหนี้ที่มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความในชั้นศาล และมีการผ่อนชำระดีมาอย่างต่อเนื่อง แต่มาเริ่มค้างชำระในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564 - 31 ธ.ค.2565 ธนาคารจะชะลอการดำเนินการทางกฎหมาย โดย ชะลอไม่ฟ้อง ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด และไม่ฟ้องล้มละลาย แล้วแต่กรณีตามสถานะของลูกหนี้แต่ละราย
สำหรับรายงานเรื่องภาระหนี้ครัวเรือนของไทย โดยสภาพัฒน์ ณ ไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว อยู่ที่ 89.3 % ของจีดีพีหรือคิดเป็นภาระหนี้จำนวน 14.35 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นภาระหนี้ของคนที่อยู่ในอาชีพครู 1.4 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ภาระหนี้ครัวเรือนของประชาชน ปรับตัวสูงขึ้นหลังเกิดการระบาดของโควิด-19 ในช่วงปี 2563 โดยก่อนโควิด-19 คือ ไตรมาสที่สี่ของปี 2562 ระดับหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีของไทยอยู่ที่ 79.8 %อ
แหล่งข่าว ออมสินชะลอฟ้องลูกหนี้ที่เป็นเสียออกไป4เดือน, bangkokbiznews, 16 ก.พ. 2565