นักวิเคราะห์มองว่าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะชะลอแผนการทำ Tapering ในการประชุมนโยบายเดือนกันยายนในสัปดาห์หน้าหรือไม่ เนื่องจากการฉีดวัคซีนที่เร่งตัวขึ้นช่วยชดเชยผลกระทบจากการล็อคดาวน์
นักวิเคราะห์ 36 คนจากทั้งหมด 37 คนที่สำรวจโดย Reuters คาดว่า cash rate จะอยู่ที่ 0.1% ซึ่งได้ลดลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ RBA ยังคงโต้แย้งว่าการปรับขึ้นราคาไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จนถึงปี 2024 โดยหวังว่าอัตราการเติบโตของการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นถึงระดับเป้าหมายก่อน
อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการชะลอการซื้อพันธบัตรรายสัปดาห์มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศใช้เมื่อปีที่แล้ว
โดยสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารสร้างความประหลาดใจที่จะยังคงยึดมั่นกับแผนการที่จะลดการซื้อพันธบัตรลงเหลือ 4 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป และหลังจากนั้นก็เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้งส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศต้องล็อคดาวน์ กระนั้นจากนักวิเคราะห์ 25 คนที่ตอบกลับ 15 คนกล่าวว่าธนาคารจะไม่ชะลอการปรับลด และมีเพียง 10 คนเท่านั้นที่จะทำเช่นนั้น
David Plank หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของออสเตรเลียของ ANZ ยังให้เหตุผลว่าแนวโน้มในปีหน้าถูกบดบังด้วยการแพร่กระจายของเดลต้าทั่วโลก ประกอบกับการชะลอตัวในจีน ทั้งนี้ RBA ควรชะลอการทำ Tapering ออกไปจนถึงการประชุมคณะกรรมการในเดือนพฤศจิกายนเป็นอย่างน้อย เพื่อดูว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะเป็นไปอย่างไร โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน
รัฐบาลออสเตรีเลียมีแผนที่จะผ่อนคลายข้อจำกัดเมื่อ 70% ของประชากรผู้ใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีน และยกเลิกการล็อกดาวน์โดยรวมที่ 80% ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสของออสเตรเลียอยู่ที่ 36.4% ของประชากร โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นเป็น 70% ภายในเดือนตุลาคมและ 80% ในเดือนพฤศจิกายน
นักเศรษฐศาสตร์ของ Nomura Andrew Ticehurst กล่าว "เราคิดว่า RBA จะยึดติดกับแผนการทำ QE ในระดับที่สมเหตุสมผล โดยแผนการเปิดเมืองของรัฐบาลเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนความคิดนี้ อย่างไรก็ตาม ควรชดเชยการลดลงของ GDP ในไตรมาส 3 ที่มีการคาดการณ์ไว้ ซึ่งเราคาดว่ามีแนวโน้มว่าจะอ่อนแอกว่า RBA ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว”
แหล่งข่าว Australia c.bank to stick with tapering plans, or maybe not โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
