เศรษฐกิจไทยปี 2565 ยังคงฟื้นตัวได้ แต่มูลค่าเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด โดยทีดีอาร์ไอคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวราว 3.5% จากปีก่อนหน้า และมูลค่าของเศรษฐกิจจะกลับไปสู่ระดับเดิมก่อนโควิดภายในปี 2566
การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ช่วงปลายปี 2564 ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ แต่ยังไม่เท่ากับระดับก่อนโควิด
เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนจากการระบาดที่ยังคงอยู่ โดยคาดว่าการบริโภคของประชาชนจะค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับเดิมก่อนโควิคภายในปี 2566 เช่นกัน
ในด้านการส่งออกจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยการส่งออกในปีที่ผ่านมาขยายตัวราว 15% และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องราว 10% ในปีนี้ โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกา จีน ยุโรป และญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังการระบาดใหญ่
และที่ผ่านมาสินค้าส่งออกมากกว่า 3 ใน 4 มีการขยายตัวมากกว่าระดับก่อนโควิดแล้ว เช่น อาหารแปรรูป ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อห่วงโซ่อุปทานในประเทศ
การลงทุนในปีนี้ยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเห็นสัญญาณจากการลงทุนของบริษัทไทยและต่างชาติที่เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว อีกทั้งการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังได้อานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีน
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และการบริการคลาวด์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากสงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน
นอกจากนี้ บริษัทต่างชาติหลายแห่งยังได้เข้ามาร่วมทุนกับบริษัทไทย เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อีกทั้งประเทศไทยยังเป็นแหล่งวัตถุดิบทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
ด้านภาคการท่องเที่ยวอาจต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2-3 ปีกว่าที่จะกลับมาเหมือนเดิมก่อนโควิด โดยคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศราว 5 ล้านคน แม้ว่าจะมากกว่าปีที่แล้วแต่ยังคงอยู่ในต่ำกว่าก่อนโควิดที่เคยมีเกือบ 40 ล้านคนต่อปี
เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ยังคงอยู่ จึงเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ด้วยจำนวนเที่ยวบินที่ลดลงและข้อกำหนดในการเดินทางจำนวนมาก ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศมีความยุ่งยากและมีราคาแพง
อีกทั้งนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid policy) ของรัฐบาลจีนที่เข้มงวดอย่างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้อย่างอิสระ โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวได้ในช่วงปลายปีนี้
ขณะที่การท่องเที่ยวของคนไทยในประเทศจะฟื้นตัวค่อนข้างเร็วในช่วงแรกหลังจากปิดเมืองมานาน แต่จะค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิดภายในปี 2566 เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับการระบาดและความไม่แน่นอนของรายได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SMEs ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่มีการจ้างงานมากกว่า 4 แสนคน
ในขณะที่ภาครัฐยังมีเงินทุนเพียงพอที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ในอนาคต หลังจากที่รัฐบาลออก พ.ร.ก. กู้ยืมเงิน 1.5 ล้านล้านบาทตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งได้มีการเบิกจ่ายใช้ไปแล้วกว่า 1.2 ล้านล้านบาท อีกทั้ง แม้ว่าหนี้สาธารณะในขณะนี้อยู่ที่ราว 60% ของจีดีพี แต่ด้วยการขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ของจีดีพี ทำให้ยังพอมีช่องว่างสำหรับการจัดหาเงินกู้เพิ่มเติมได้อีกราว 1 ล้านล้านบาท
ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยของไทยปีนี้คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่ค่าเงินบาทปีนี้คาดว่าจะอ่อนค่ากว่าปีที่แล้ว เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
แหล่งข่าว อ่านเศรษฐกิจไทยปี 65 : โอกาส-อุปสรรค ฟื้นกลับมา | ทีดีอาร์ไอ, bangkokbiznews, 14 ม.ค. 2565