นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมี.ค.ติดลบ 0.08 % ถือว่าติดลบน้อยลงที่สุดในรอบ 13 เดือน นับตั้งแต่มี.ค.2563 แต่เพิ่มขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.2564 ส่วนเฉลี่ย 3 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-มี.ค.) ลดลง 0.53% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก พบว่า ดัชนีอยู่ที่ 100.42 เพิ่มขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2563 และเพิ่มขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.2564 และเฉลี่ย 3 เดือนเพิ่มขึ้น 0.12%
ทั้งนี้เงินเฟ้อที่ติดลบน้อยลงเป็นผลมาจากสินค้าในกลุ่มพลังงานที่กลับมาเป็นบวกอีกครั้งในรอบ 14 เดือน โดยสูงขึ้น 1.35% ตามราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศที่ปรับสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลก โดยราคาขายปลีกในประเทศ ปรับขึ้น 5 ครั้ง และปรับลง 5 ครั้ง แต่ราคาที่ปรับขึ้นมากกว่าราคาที่ลดลงรวมทั้ง น้ำมันพืช และเนื้อสุกร ที่ยังมีราคาสูง โดยเนื้อสุกรปรับสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นายวิชานัน กล่าวว่า เงินเฟ้อที่หดตัวน้อยลงในเดือนนี้ นับได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา สอดคล้องกับอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนภาพรวมเงินเฟ้อปี 64 ยังอยู่ในกรอบที่สนค.คาดการณ์ไว้ที่ขยายตัว 0.7-1.7%โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 1.2%แม้ได้ปรับสมมติฐานต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 2.5-3.5%จากเดิมในเดือนธ.ค.63 คาดโต 3.5-4.5%ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 55-65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิมคาด 40-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ค่าเงินบาททั้งปีอยู่ที่ 29.0-31.0 บาทต่อดอลลาร์ จากเดิมคาด 30.0-32.0 บาทต่อดอลาร์
แหล่งข่าว เงินเฟ้อมี.ค.ติดลบต่ำสุดในรอบ 13 เดือน, bangkokbiznews, 06 เม.ย. 2564