ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 พ.ค.64 ปิดที่ 1,548.13/-23.72 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 143,714.02 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,458.07 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 58 บาท ลบ 2.75 บาท, TIDLOR ปิด 41 บาท บวก 0.75 บาท, STA ปิด 46.50 บาท ลบ 2.25 บาท, KBANK ปิด 122.50 บาท บวก 3.00 บาท และ STGT ปิด 45.50 บาท บวก 0.25 บาท
บล.เอเซียพลัสระบุว่า รายงานอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน เม.ย. ที่ตลาดรอคอย ซึ่งมีผลต่อแนวโน้มตลาดหุ้นโลกออกมามากกว่าที่ตลาดคาด คือ เงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 4.2%yoy และเพิ่มขึ้น 0.8%mom เช่นเดียวกับเงินเฟ้อที่ตัดอาหารสด พลังงาน 3.0%yoy โดยรวมเงินเฟ้อทั้งหมดเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี
ผลกระทบจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นทำให้ตลาดกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับการใช้นโยบายการเงินตึงตัว ส่งผลกระทบตลาดทุน ทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศ นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูก Take Profit หนุน Dollar Index ชะลอการอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ 90.8 จุด และทำให้ Bond Yields 10 ปี สหรัฐฯปรับขึ้นทำจุดสูงสุดตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.64 อยู่ที่ราว 1.7% เป็นตัวการที่สร้างความผันผวนช่วงสั้นต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัว ยังปรับตัวในทิศทางขาขึ้น คาดยังเป็นบวกต่อหุ้น Commodity
เอเซียพลัสเชื่อว่าหลังจากช่วงสั้นตลาดหุ้นโลกผันผวน โดยให้น้ำหนักการแสดงความเห็นของประธาน Fed, คณะกรรมการ Fed แต่ละท่าน และผลการประชุม Fed รอบถัดไป 15-16 มิ.ย.64 โดยมุมมองดอกเบี้ยสหรัฐฯ ระยะสั้น เอเซียพลัสยังคาดว่าไม่น่าปรับเปลี่ยน คือ คาดคงที่ 0.25% ตามเดิม
แต่หากสื่อสารออกมาจะใช้นโยบายการเงิน ตึงตัวมากขึ้น อาทิ จะเริ่ม QE Tapering (การลดวงเงินในการซื้อพันธบัตร ฯลฯ) คาดอาจกดดันตลาดหุ้นโลก และหุ้นไทยช่วงสั้น แต่หากสื่อสารออกมาไม่ได้กังวลเงินเฟ้อ เชื่อว่าตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทยก็จะฟื้นตัวกลับได้เร็ว
เอเซียพลัสประเมินจากสถิติในอดีตตั้งแต่ช่วงปี 53 จนถึง 57 พบว่า SET Index เคลื่อนไหวสวนทางกับอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง จากผลกระทบของ Shale Oil ขณะที่ SET Index กำลังฟื้นตัวจากวิกฤติ Subprime อย่างไรก็ตามหลังปี 58 เป็นต้นมา SET Index เคลื่อนไหวสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อมากขึ้น คือ หากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นไทยก็ปรับขึ้นตาม หรือมี Correlation ไปในทิศทางเดียวกัน!!
แหล่งข่าว เงินเฟ้อสหรัฐฯกับหุ้นไทย!!, ไทยรัฐ, 14 พ.ค. 2564