บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ประเด็น “เงินทุนทั่วโลกไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อ บวกกับหุ้นไทย” โดยระบุว่า ทิศทาง Fund Flow ของโลกมีแนวโน้มไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง สังเกตได้จาก
1.ราคาสกุลเงินดิจิทัลปรับตัวขึ้นต่อ นำโดย Bitcoin แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อบริษัทจดทะเบียนไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล เช่น BROOK, JTS, ANAN, SIRI, ASW, SCB, XPG, JTS แต่แนะเพียงเก็งกำไรตามกระแส เนื่องจาก JTS, XPG และ BROOK ซื้อขายที่ระดับ Trailing PE สูงมากที่ราว 507, 720 และ 328 เท่า
2.ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบมีแรงหนุนเสริมจากด้าน Supply หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลง 4 แสนบาร์เรล สวนทางตลาด คาดว่าเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ช่วยให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ยังทรงตัวที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น เช่น PTT และ TOP โดยเอเซียพลัสเลือก TOP เป็นหนึ่งใน Toppick
3.ตลาดหุ้นโลกปรับขึ้น โดยวันก่อนดัชนี Dow Jones ปรับขึ้น และระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ ที่ 35,669.69 จุด ทั้งนี้ ตลาดหุ้นโลกได้แรงหนุนจากการรายงานผลประกอบการ 3Q64 ซึ่งบริษัทราว 82% ในดัชนี S&P 500 รายงานผลประกอบการสูงกว่าที่คาด 4.ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยปรับลดลง สะท้อนจาก Bond Yield สหรัฐฯ ทั้งระยะสั้น-กลางปรับเพิ่มขึ้น รวมไปถึง Dollar Index อ่อนค่าลง
จากทิศทางของ Fund Flow ในระดับโลกที่มีแนวโน้มไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงต่อ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยในฐานะที่เป็นหนึ่งในสินทรัพย์เสี่ยง จะได้อานิสงส์ตามไปด้วยเช่นกัน อย่างน้อยในระยะสั้น
ขณะที่ภาพรวมเดือน ต.ค. Fund flow ต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยสูงสุดในภูมิภาคกว่า 620 ล้านเหรียญฯ หรือกว่า 2.07 หมื่นล้านบาท แต่มีแรงกดดันจากฝั่งสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท เอเซียพลัสหาหุ้นที่มีโอกาส Outperform เด่น ทั้งจากการหลบแรงขายสถาบันฯ ชอบ HMPRO-SCGP ส่วนหุ้นที่ต่างชาติซื้อสะสมเด่นในเดือน ต.ค. ส่วนใหญ่เป็นหุ้นใหญ่กลุ่มเปิดเมือง และพลังงานเป็นหลัก ส่วนใหญ่ Outperform ตลาด และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 4.3%
โดยที่พอร์ตจำลองของเอเซียพลัสมีหุ้นที่ต่างชาติทยอยซื้อสะสม อยู่ 5 บริษัท ได้แก่ KBANK MINT CPALL TOP และ MTC!!
แหล่งข่าว เงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง!!, bangkokbiznews, 25 ต.ค. 2564