ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 20 ธ.ค. 64 ปิดที่ 1,615.80 จุด ลดลง 25.93 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 82,357.88 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,905.48 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด EA ปิด 93.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, KBANK ปิด 136.50 บาท ลบ 4.50 บาท, SCB ปิด 122 บาท ลบ 3 บาท, CPALL ปิด 58.75 บาท ลบ 1.75 บาท, JMT ปิด 66.50 บาท บวก 3.50 บาท
หุ้นไทยร่วงแรง เจอ ปัจจัยกดดัน 2 เด้ง คือความกังวลกับไวรัสโควิด–19 สายพันธุ์โอมิครอนมีการระบาดอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะในอังกฤษ ยุโรปและอเมริกา ขณะที่ไทยพบผู้ติดเชื้อแล้วถึง 63 ราย กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มองว่าอาจส่งผลกระทบฉุดเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงอีกครั้ง
หุ้นไทยยังถูกกดดันจากข่าวคลังปัดฝุ่นจ่อเก็บภาษีขายหุ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลการประชุม ครม. ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นการบริโภคออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น คนละครึ่งเฟส 4 และอื่นๆ ถ้ามีออกมาก็จะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค
บล.เอเซียพลัส ชี้ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ ให้น้ำหนักกับปัจจัยในประเทศ เพราะต่างประเทศหยุดทำการ เช่น การประชุม ครม. การประชุม กนง. และตัวเลขการส่งออก-นำเข้าของไทย โดยการประชุม ครม. วันที่ 21 ธ.ค.นี้ คาดจะมีการพิจารณามาตรการ “ช็อปดีมีคืน” (นำใบเสร็จค่าใช้จ่ายสินค้า-บริการมาหักลดหย่อนภาษี) มองว่าหาก ครม. อนุมัติมาตรการช็อปดีมีคืน จะมีผลช่วงต้นปี 65 เป็นหลัก และอาจมีลุ้นว่ามาตรการจะครอบคลุมไปถึงเดือน ก.พ.65 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย
บริษัทจดทะเบียนที่จะได้ประโยชน์โดยตรง ได้แก่ กลุ่มค้าปลีกสินค้า IT อาทิ COM7 (FV@84.0), SPVI (FV@8.3), JMART (FV@42.2), กลุ่มตกแต่งบ้าน อาทิ HMPRO (FV@16.0), DOHOME (FV@30.7) กลุ่มห้างสรรพสินค้า เช่น CRC (FV@39.0), CPN (FV@69.0) กลุ่มสินเชื่อบัตรเครดิต AEONTS (FV@B280)
นอกจากนี้ยังมีประเด็น บอร์ด EV เตรียมเสนอ ครม. ลดภาษีสรรพสามิตรถ EV เหลือ 2% หรือมาตรการเสริม 2 กลุ่มคือ รถ EV ราคาต่ำกว่า 2 ล้าน ลดราคา 20% คาดใช้เงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ อุดหนุนราคาคาดเป็น Sentiment บวกต่อ EA (SWITCH :FV@57.0) GPSC (BUY:FV@90.0) PTT (BUY:FV@49.5)
แหล่งข่าว เจอกดดัน 2 เด้ง!!, ไทยรัฐ, 21 ธ.ค. 2564