หากดูประสิทธิภาพการบริหารจัดการในสถานการณ์วิกฤติของรัฐบาลอาจทำให้มีความเชื่อมั่นลดลงต่อการรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งที่ผ่านมามีการตัดสินใจที่ผิดพลาดในหลายประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะความผิดพลาดในการจัดหาวัคซีนที่หลายประเทศวางแผนอย่างเข้มข้นในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ที่จะจัดหาวัคซีนมาให้เพียงพอ ในขณะที่ประเทศไทยจัดหาวัคซีนได้ล่าช้าและปฏิเสธการพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอของหลายฝ่ายที่เสนอแนวทางการเร่งนำเข้าวัคซีน
ประเทศไทยในขณะนี้จึงตกอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลนทั้งงบประมาณดำเนินการทำให้ต้องกู้เงินมาบริหารภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งขาดแคลนวัคซีนและอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อ โดยถ้ามองย้อนไปปลายปี 2563 คงไม่มีใครคิดว่าประเทศไทยจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ดังนั้นสิ่งสำคัญประการหนึ่งในการบริหารบนสถานการณ์ฉุกเฉิน คือ สมมติฐานในกรณีเลวร้ายที่สุดอย่าเพิ่งรีบตัดออกไป เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอหากสถานการณ์ยังไม่จบ
ลำพังการนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติการระบาดระลอกใหม่นี้ดูเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญสำหรับรัฐบาลปัจจุบัน และเมื่อมาเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูงแล้วรัฐบาลจะนำพาประเทศให้พ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาการจัดหาวัคซีนที่เป็นเงื่อนไขสำคัญของการควบคุมการระบาดยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เมื่อใด รัฐบาลควรตระหนักถึงโอกาสที่ได้รับจากประชาชนแล้วใช้โอกาสที่ได้รับเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติให้ดีกว่านี้
แหล่งข่าว เชื่อมั่นรัฐบาลแค่ไหน รับมือเศรษฐกิจถดถอย, bangkokbiznews, 6 ส.ค. 2564