เปิดรายงานภาษีหุ้นกระทบรายได้ ‘โบรก-ตลท.-ก.ล.ต.’ วอลุ่มเทรดวูบ 70%

WealthUp

Moderator
Staff member
Optimized-15.jpg

จากกรณีที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศว่า กระทรวงการคลังจะเดินหน้าจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (Financial Transaction Tax) ในอัตรา 0.1% ของธุรกรรมการการซื้อขายตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่กรมสรรพากรจะกำหนดแนวทางการจัดเก็บ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความชอบธรรม และเป็นการขยายฐานภาษี หลังจากที่รัฐบาลได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีซื้อขายหุ้นมาตั้งแต่ปี 2534 เพื่อส่งเสริมการลงทุนตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงของการพัฒนา

ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นความร้อนแรงในแวดวงตลาดหุ้นและตลาดทุน ที่มีหลายฝ่ายออกมาคัดค้าน ทั้งโบรกเกอร์ สภาธุรกิจตลาดทุน รวมทั้งภาคการเมือง เช่น นางสาววทันยา วงษ์โอภาษี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และ กรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ที่ออกมาเรียกร้องให้ทบทวน เพราะเกรงว่าจะสร้างภาระให้นักลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ และจะเป็นผลักใสนักลงทุนหนีไปลงทุนต่างประเทศแทน

“เฟทโก้” ขอพบ รมว.คลัง
ขณะที่สมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นและตลาดทุนไทย เริ่มมีความเคลื่อนไหว ล่าสุดวานนี้ (13ม.ค.) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เรียกประชุมสมาชิกเพื่อกำหนดท่าทีเป็นการด่วน

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ FETCO วานนี้ ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่มีการหารือกัน คือ มาตรการการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้ประชุมที่เป็นตัวแทนของภาคตลาดทุนทั้งหมด เห็นตรงกันว่าจะยื่นหนังสือเพื่อขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อชี้แจงเหตุผลในการคัดค้านการเก็บภาษีหุ้น จากเดิมมีแผนทำหนังสือชี้แจงในนาม FETCO เท่านั้น เบื้องต้นสภาธุรกิจตลาดทุนได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับสมาคมวิชาชีพตลาดทุนที่ร่วมประชุมวานนี้ ประกอบด้วย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA)

นายไพบูลย์ กล่าวว่า การหารือร่วมกันวานนี้ FETCO ได้รวบรวมความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อย่างไรก็ดี ยังไม่มีประเด็นใหม่ที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ตลท.ชี้ผลกระทบรุนแรงกว่าคาด

แหล่งข่าวจากตลาดทุนรายหนึ่ง กล่าวว่า ภายหลังการประชุมระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และผู้ร่วมตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ได้เปิดเผยถึงบทวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ในกรณีที่กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีหุ้น ซึ่งผลกระทบคาดว่าจะรุนแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ เพราะคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่หุ้น อนุพันธ์ และการซื้อขายบนตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ซึ่งจะส่งผลให้สภาพคล่องการซื้อขายลดลงราว 50-70%

อีกหนึ่งผลกระทบสำคัญ คือ การซ้ำเติมการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนในประเทศ จากช่วงที่ผ่านมานักลงทุนกลุ่มนี้ลดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลง ภายหลังถูกกระทบจากการยกเลิกการต่ออายุกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ส่งผลให้กองทุนรวมของสถาบันในประเทศส่วนใหญ่มีแนวโน้มออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น

ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่คาดว่าจะประสบในอุตสาหกรรม คือ ผลกระทบต่อนักลงทุน โดยเฉพาะแรงจูงใจในการลงทุน ภายหลังค่าธรรม เนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น) จะต้องปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) กองทุนรวมดัชนี (ETF) บล็อกเทรด และตราสารประเภทซับซ้อน (Structured Products) ฯลฯ

แหล่งข่าว เปิดรายงานภาษีหุ้นกระทบรายได้ ‘โบรก-ตลท.-ก.ล.ต.’ วอลุ่มเทรดวูบ 70%, bangkokbiznews, 14 ม.ค. 2565
 

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,180
Messages
12,435
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top