นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 14 ก.ย.2564 เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยดึงชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ โดยตั้งเป้า 5 ปี (2565-2569) มีชาวต่างชาติที่มีรายได้สูง นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ผู้เกษียณอายุที่มีรายได้สูงจากบำนาญมาอาศัยในไทย 1 ล้านคน ส่งผลให้เงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไทยเพิ่ม 1 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ มาตรการที่ ครม.เห็นชอบมีมาตรการที่เกี่ยวกับการออกวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว (Long-term resident visa) เพื่อรองรับผู้มีศักยภาพสูง 4 ประเภท ได้แก่
1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง โดยต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนดอลลาร์ในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) หรือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ และมีเงินเดือนหรือเงินบำนาญขั้นต่ำปีละ 8 หมื่นดอลลาร์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 1 ล้านดอลลาร์
2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำ 2.5 แสนดอลลาร์ ในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือลงทุนทางตรงจากต่างประเทศหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และมีเงินบำนาญขั้นต่ำปีละ 4 หมื่นดอลลาร์ หรือมีเงินบำนาญขั้นต่ำปีละ 8 หม่ื่นดอลลาร์ (กรณีไม่มีการลงทุน)
3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทยโดยมีรายได้ส่วนบุคคล เช่น เงินเดือนหรือรายได้จากการลงทุนปีละ 8 หมื่นดอลลาร์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหรือปีละ 4 หมื่นดอลลาร์ หากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป, ครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา, ได้รับทุนจาก Series A ที่เป็นการร่วมทุนในเวนเจอร์ฟันด์หรือสตาร์ทอัพ และมีประสบการณ์การทำงาน 5 ปีขึ้นไป
4.กลุ่มที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ โดยมีรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 8 หมื่นดอลลาร์ในช่วง 2 ปีหรือปีละ 4 หมื่นดอลลาร์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป และมีประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 5 ปีในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวระดับคุณภาพ เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การแปรรูปอาหารคุณภาพสูง หุ่นยนต์ การบิน เชื้อเพลิงชีวภาพ ดิจิทัล และการแพทย์
ทั้งนี้ มาตรการที่สนับสนุน 4 กลุ่มดังกล่าวให้สิทธิทำงานพร้อมวีซ่า ให้คู่สมรสและบุตรได้รับวีซ่าผู้ติดตามไปพร้อมกันด้วย ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายได้จากต่างประเทศ รวมทั้งรายได้ที่นำเข้ามาในปีภาษีเดียวกัน ในอนาคตอาจได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวที่รวมทั้งที่ดิน
สำหรับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ให้ได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมโดยเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่ากับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือ เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% โดยในส่วนนี้มอบให้กระทรวงการคลังกำหนดรายละเอียด
นอกจากนี้ มีมาตรการการแก้ไขกฎหมายหรือกฎระเบียบเพื่อดึงชาวต่างชาติ ได้แก่ การกำหนดวีซ่าประเภทพิเศษตามโครงการ การสร้างระบบอำนวยความสะดวกให้รับอนุมัติวีซ่าได้เร็ว การให้สิทธิคู่สมรสและบุตรรับวีซ่าผู้ติดตาม ได้ยกเว้นไม่ต้องรายงานตัวทุก 90 วัน
แหล่งข่าว เปิดแผนดึงต่างชาติลงทุนไทย เจาะกลุ่มเศรษฐี-ผู้เกษียณอายุ, bangkokbiznews, 16 ก.ย. 2564