ผลการดำเนินงานไตรมาส1ปี 2564ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ซึ่งเติบโตสูงเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระบุ ไตรมาสนี้บจ.มีกำไรสุทธิรวม 257,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 229.81% เป็นเพราะ หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy & Utilities) โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน และหมวดธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (Petrochemicals & Chemicals) มีรายได้ กำไรจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยได้อานิสงค์จากการที่กลุ่มประเทศ OPEC ลดกำลังการผลิตซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นน้ำมันปรับสูงขึ้น
สำหรับบจ. อื่นๆ แม้ยอดขายทรงตัวจาก COVID-19 แต่มีการปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์ได้ดี โดยเฉพาะการบริหารต้นทุนการผลิตและการจัดการ จึงส่งผลทำให้ทั้งกำไรจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ หากจากการรวบรวมข้อมูล 10 บจ.ที่มีกำไรสุทธิสูงสุดในตลาดหุ้นไทยไตรมาส1ปี 2564 ดังนี้
1.บมจ.ปตท. ( PTT) มีกำไรสุทธิ 32,587.61 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน1,554 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 2,197%เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
2.บมจ.ปูนซิเมนไทย(SCC) มีกำไรสุทธิ 14,913.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น114%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,971.20 ล้านบาท สาเหตุหลักธุรกิจเคมิคอลส์มีส่วนต่างราคาสินค้าและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น
3.บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มีกำไรสุทธิ11,533.68 เพิ่มขึ้น34% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,612.48 ล้านบาท เพราะจากราคาขายที่เริ่มฟื้นตัวตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก
4.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีกำไรสุทธิ 10,626.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.10% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,375 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 1,923 ล้านบาท
5.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มีกำไรสุทธิ 10,087.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,250.99 ล้านบาท เพราะการขยายฐานรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตมากขึ้น
6.ศรีตรังโกลฟส์ (STGT) มีกำไรสุทธิ 10,051.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,245% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ428.6 ล้านบาท จากปริมาณการขายและราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
7.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล( PTTGC) มีกำไรสุทธิ 9,694.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น210.36% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 8,784 ล้านบาท จากรายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้น 9% และราคาขายของทุกผลิตภัณฑ์ปรับขึ้น
8.บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) มีกำไรสุทธิ 6,945.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น13.65% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,110.92 ล้านบาท ปัจจัยหลักจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การตลาด
9.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) มีกำไรสุทธิ 6,923.10 ล้านบาท ลดลง 9.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,671 ล้านบาท เพราะการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
10.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) มีกำไรสุทธิ 6,643.89 ล้านบาท ลดลง1.66% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,756.19 ล้านบาท เป็นผลจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นจากการเข้ารับใบอนุญาตคลื่นความถี่เพิ่มเติมและการลงทุนโครงข่าย
แหล่งข่าว เปิด 10 อันดับบจ.กำไรสูงสุดในตลาดหุ้นไทยไตรมาส1/64, bangkokbiznews, 30 พ.ค. 2564
สำหรับบจ. อื่นๆ แม้ยอดขายทรงตัวจาก COVID-19 แต่มีการปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์ได้ดี โดยเฉพาะการบริหารต้นทุนการผลิตและการจัดการ จึงส่งผลทำให้ทั้งกำไรจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ หากจากการรวบรวมข้อมูล 10 บจ.ที่มีกำไรสุทธิสูงสุดในตลาดหุ้นไทยไตรมาส1ปี 2564 ดังนี้
1.บมจ.ปตท. ( PTT) มีกำไรสุทธิ 32,587.61 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน1,554 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 2,197%เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
2.บมจ.ปูนซิเมนไทย(SCC) มีกำไรสุทธิ 14,913.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น114%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,971.20 ล้านบาท สาเหตุหลักธุรกิจเคมิคอลส์มีส่วนต่างราคาสินค้าและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น
3.บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มีกำไรสุทธิ11,533.68 เพิ่มขึ้น34% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,612.48 ล้านบาท เพราะจากราคาขายที่เริ่มฟื้นตัวตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก
4.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีกำไรสุทธิ 10,626.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.10% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,375 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 1,923 ล้านบาท
5.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มีกำไรสุทธิ 10,087.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,250.99 ล้านบาท เพราะการขยายฐานรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตมากขึ้น
6.ศรีตรังโกลฟส์ (STGT) มีกำไรสุทธิ 10,051.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,245% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ428.6 ล้านบาท จากปริมาณการขายและราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
7.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล( PTTGC) มีกำไรสุทธิ 9,694.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น210.36% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 8,784 ล้านบาท จากรายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้น 9% และราคาขายของทุกผลิตภัณฑ์ปรับขึ้น
8.บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) มีกำไรสุทธิ 6,945.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น13.65% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,110.92 ล้านบาท ปัจจัยหลักจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การตลาด
9.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) มีกำไรสุทธิ 6,923.10 ล้านบาท ลดลง 9.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,671 ล้านบาท เพราะการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
10.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) มีกำไรสุทธิ 6,643.89 ล้านบาท ลดลง1.66% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,756.19 ล้านบาท เป็นผลจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นจากการเข้ารับใบอนุญาตคลื่นความถี่เพิ่มเติมและการลงทุนโครงข่าย
แหล่งข่าว เปิด 10 อันดับบจ.กำไรสูงสุดในตลาดหุ้นไทยไตรมาส1/64, bangkokbiznews, 30 พ.ค. 2564