Menu
Forums
New posts
Search forums
What's new
New posts
Blog
Latest activity
Members
Current visitors
เกี่ยวกับเรา
Groups
Search groups
Upcoming events
ภาษา (🇺🇸 🇹🇭)
Log in
Register
What's new
Search
Search
Search titles only
By:
New posts
Search forums
Menu
Log in
Register
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
เฟดอาจเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น - 30 ตุลาคม 2563
JavaScript is disabled. For a better experience, please enable JavaScript in your browser before proceeding.
Reply to thread
Message
<p>[QUOTE="Jettarin.Su, post: 430, member: 14"]</p><p>[ATTACH=full]440[/ATTACH]</p><p></p><p>* คณะกรรมการ Federal Open Market (FOMC) มีกำหนดประชุมนโยบายวันที่ 4-5 พฤศจิกายน</p><p>* ผู้เข้าร่วมตลาดคิดว่าเฟดอาจรอที่จะประกาศความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายเพิ่มเติม แต่ความคืบหน้าล่าสุดอาจเปลี่ยนแปลงได้</p><p>* ความกลัวว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวจากการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาอาจทำให้เกิดความเร่งตัวมากขึ้น</p><p></p><p>อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นที่เข้าใจยาก คำถามมากมายเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่เติบโตในไตรมาสที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯต้องเผชิญกับทางเลือกว่าจะรอให้ปัจจัยต่าง ๆ คลี่คลายลง หรือให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในตอนนี้</p><p>ผู้เข้าร่วมตลาดส่วนใหญ่คาดหวังว่า Federal Open Market Committee จะไม่มีแอคชั่นใดๆ ในการประชุมนโยบายในวันพุธและพฤหัสบดี</p><p></p><p>Aneta Markowska หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การเงินของ Jefferies กล่าวว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะรอจนถึงเดือนธันวาคม ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ความกังวลเกือบทั้งหมดที่พวกเขาคาดการณ์เกิดขึ้นหรือตั้งเค้าขึ้นแล้วในเดือน</p><p>อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะสวนทางกับเศรษฐกิจที่เติบโตในไตรมาสที่ผ่านมาที่ GDP เพิ่มขึ้น 33.1% และการจ้างงาน 11.4 ล้านตำแหน่งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ตลอดจนขาขึ้นของภาคที่อยู่อาศัย</p><p></p><p>กระนั้น นักเศรษฐศาสตร์ของเฟดและที่อื่น ๆ ยังคงกังวลถึงการระดมทุนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กำลังเลือนราง ขณะที่ ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนายังคงเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความกังวลถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เฟดมีปัญหาอีกอย่างคือตลาดไม่ได้เชื่อมั่นถึงความพยายามของธนาคารกลางที่จะผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นหรือไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย</p><p>การคาดการณ์เงินเฟ้อตามตัวชี้วัดของตลาดได้ลดลงอย่างแท้จริงเนื่องจากเฟดอนุมัติแนวทางที่จะปล่อยให้อัตราเงินเฟ้ออยู่เหนือเป้าหมาย 2%</p><p>รายงานของกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันศุกร์ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นถึง 1.4% ในเดือนกันยายนซึ่งยังต่ำกว่าระดับที่ธนาคารกลางต้องการ</p><p></p><p><strong>โครงการ Main Street </strong></p><p></p><p>เมื่อวันศุกร์เฟดประกาศว่ากำลังผ่อนปรนเงื่อนไขบางประการเกี่ยวกับโครงการสินเชื่อ Main Street สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ธนาคารกลางลดเงินกู้ขั้นต่ำเป็น 100,000 ดอลลาร์จาก 250,000 ดอลลาร์และผ่อนคลายข้อจำกัดด้านหนี้สิน</p><p>David Mericle นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า หากการฟื้นตัวของไวรัสในช่วงฤดูหนาวที่อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่าที่เราคาดไว้ และ FOMC ต้องการที่จะตอบสนอง ทางเลือกต่างๆ ก็จะมี จำกัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การตอบสนองดังกล่าวที่อาจเป็นไปได้มากที่สุดคือ การปรับองค์ประกอบหรืออัตราของการซื้อสินทรัพย์ แต่เจ้าหน้าที่ของเฟดมองว่า การตอบสนองดังกล่าวคงไม่มีประสิทธิผลมากนัก</p><p></p><p>นักลงทุนในตลาดคาดหวังว่าการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟดคือ การปรับเปลี่ยนโครงการจัดซื้อสินทรัพย์ เฟดกำลังซื้อ Treasurys และหลักทรัพย์ค้ำประกันขั้นต่ำเดือนละ 120,000 ล้านดอลลาร์ และอาจเปลี่ยนองค์ประกอบของการซื้อเหล่านั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายที่หลากหลาย</p><p>เนื่องจากมันสามารถขยายระดับที่กำลังซื้อได้ และยังสามารถขยายระยะเวลาของพันธบัตร และสามารถกำหนดเป้าหมายของการซื้อต่อไปได้ จากอำนวยความสะดวกในการทำงานของตลาดไปจนถึงการสนับสนุนเศรษฐกิจในวงกว้าง</p><p></p><p><em>แหล่งข่าว The Fed could face more pressure to act: ‘They don’t have the luxury of time anymore’ โดย CNBC</em></p><p><em></em></p><p><em><strong>แปลโดยทีม TradersThailand</strong></em></p><p>[/QUOTE]</p>
[QUOTE="Jettarin.Su, post: 430, member: 14"] [ATTACH type="full"]440[/ATTACH] * คณะกรรมการ Federal Open Market (FOMC) มีกำหนดประชุมนโยบายวันที่ 4-5 พฤศจิกายน * ผู้เข้าร่วมตลาดคิดว่าเฟดอาจรอที่จะประกาศความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายเพิ่มเติม แต่ความคืบหน้าล่าสุดอาจเปลี่ยนแปลงได้ * ความกลัวว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวจากการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาอาจทำให้เกิดความเร่งตัวมากขึ้น อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นที่เข้าใจยาก คำถามมากมายเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่เติบโตในไตรมาสที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯต้องเผชิญกับทางเลือกว่าจะรอให้ปัจจัยต่าง ๆ คลี่คลายลง หรือให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในตอนนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดส่วนใหญ่คาดหวังว่า Federal Open Market Committee จะไม่มีแอคชั่นใดๆ ในการประชุมนโยบายในวันพุธและพฤหัสบดี Aneta Markowska หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การเงินของ Jefferies กล่าวว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะรอจนถึงเดือนธันวาคม ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ความกังวลเกือบทั้งหมดที่พวกเขาคาดการณ์เกิดขึ้นหรือตั้งเค้าขึ้นแล้วในเดือน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะสวนทางกับเศรษฐกิจที่เติบโตในไตรมาสที่ผ่านมาที่ GDP เพิ่มขึ้น 33.1% และการจ้างงาน 11.4 ล้านตำแหน่งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ตลอดจนขาขึ้นของภาคที่อยู่อาศัย กระนั้น นักเศรษฐศาสตร์ของเฟดและที่อื่น ๆ ยังคงกังวลถึงการระดมทุนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กำลังเลือนราง ขณะที่ ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนายังคงเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความกังวลถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เฟดมีปัญหาอีกอย่างคือตลาดไม่ได้เชื่อมั่นถึงความพยายามของธนาคารกลางที่จะผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นหรือไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย การคาดการณ์เงินเฟ้อตามตัวชี้วัดของตลาดได้ลดลงอย่างแท้จริงเนื่องจากเฟดอนุมัติแนวทางที่จะปล่อยให้อัตราเงินเฟ้ออยู่เหนือเป้าหมาย 2% รายงานของกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันศุกร์ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นถึง 1.4% ในเดือนกันยายนซึ่งยังต่ำกว่าระดับที่ธนาคารกลางต้องการ [B]โครงการ Main Street [/B] เมื่อวันศุกร์เฟดประกาศว่ากำลังผ่อนปรนเงื่อนไขบางประการเกี่ยวกับโครงการสินเชื่อ Main Street สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ธนาคารกลางลดเงินกู้ขั้นต่ำเป็น 100,000 ดอลลาร์จาก 250,000 ดอลลาร์และผ่อนคลายข้อจำกัดด้านหนี้สิน David Mericle นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า หากการฟื้นตัวของไวรัสในช่วงฤดูหนาวที่อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่าที่เราคาดไว้ และ FOMC ต้องการที่จะตอบสนอง ทางเลือกต่างๆ ก็จะมี จำกัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การตอบสนองดังกล่าวที่อาจเป็นไปได้มากที่สุดคือ การปรับองค์ประกอบหรืออัตราของการซื้อสินทรัพย์ แต่เจ้าหน้าที่ของเฟดมองว่า การตอบสนองดังกล่าวคงไม่มีประสิทธิผลมากนัก นักลงทุนในตลาดคาดหวังว่าการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟดคือ การปรับเปลี่ยนโครงการจัดซื้อสินทรัพย์ เฟดกำลังซื้อ Treasurys และหลักทรัพย์ค้ำประกันขั้นต่ำเดือนละ 120,000 ล้านดอลลาร์ และอาจเปลี่ยนองค์ประกอบของการซื้อเหล่านั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายที่หลากหลาย เนื่องจากมันสามารถขยายระดับที่กำลังซื้อได้ และยังสามารถขยายระยะเวลาของพันธบัตร และสามารถกำหนดเป้าหมายของการซื้อต่อไปได้ จากอำนวยความสะดวกในการทำงานของตลาดไปจนถึงการสนับสนุนเศรษฐกิจในวงกว้าง [I]แหล่งข่าว The Fed could face more pressure to act: ‘They don’t have the luxury of time anymore’ โดย CNBC [B]แปลโดยทีม TradersThailand[/B][/I] [/QUOTE]
Preview
Name
Verification
Post reply
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
เฟดอาจเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น - 30 ตุลาคม 2563
Top