ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 ก.ย.64 ปิดที่ 1,633.76 จุด ลดลง 1.59 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 86,159.97 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 515.08 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด DELTA ปิด 652 บาท ลบ 108 บาท, EA ปิด 64.75 บาท ลบ 2.75 บาท, KBANK ปิด 122 บาท บวก 1 บาท, PTT ปิด 38.25 บาท บวก 0.25 บาท, AOT ปิด 62 บาท บวก 1.25 บาท
แรงขายหุ้น DELTA กดดัชนีภาพรวมตลาดปิดลบ แม้จะมีแรงซื้อกลับหุ้นแบงก์และหุ้นน้ำมันและปิโตรเคมีที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น
บล.เอเซียพลัส ให้ติดตามประเด็นต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นสัปดาห์นี้ ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ, จีน ทั้งอัตราเงินเฟ้อ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ และผลผลิตอุตสาหกรรม, การลงทุน และยอดค้าปลีกของจีน
โดยส่วนใหญ่ Consensus คาดตัวเลขจะออกมาดีต่อเนื่อง เติบโต yoy และขยายตัวสูง คาดว่าจะมีผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของโลก โดยเฉพาะความเร็วในการประกาศ QE Tapering ของ Fed (Fed ยืนยันชัดเจนประกาศปีนี้) ในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งของปีนี้ ซึ่งเอเซียพลัสคาดว่าจะยังสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นโลกและไทยรายวัน
ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความคืบหน้า ทั้งด้านการใช้จ่าย และการท่องเที่ยว โดยแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตของรัฐมีความชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว คาดว่าจะช่วยเสริมให้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ ได้ Sentiment เช่น ค้าปลีก (CPALL, BJC, CRC HMRO, DOHOME, COM7, SPVI), กลุ่มห้างสรรพสินค้า (CPN), การบิน (AOT, AAV, BA), โรงแรม (CENTEL, ERW, MINT)
เอเซียพลัสยังได้คัดกรองหาหุ้นในกลุ่มที่มีโอกาสได้เม็ดเงินลงทุนมาหนุน หรือหุ้นที่มีโอกาส Outperform ตลาดในช่วงต่อจากนี้ คือ 1.หุ้นพื้นฐานยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น เลือกจากหุ้นกลุ่ม Outperform ตลาด และราคายังยืนเหนือเส้น EMA 10 วัน แสดงให้เห็นทั้งความแข็งแกร่งและแนวโน้มที่ยังเป็นขาขึ้นอยู่ แนะนำ KCE, COM7, PLANB
2.หุ้นพื้นฐานราคา Laggard มีโอกาสฟื้นตัวในระยะถัดไปสูง แนะนำ BLA, IVL, KBANK, TISCO, SPALI, LH, AP, TU, CPF 3.หุ้นพื้นฐานราคาย่อตัวลงจนน่าสะสม เลือกจากหุ้นที่ลงมาลึกกว่าตลาดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จน Valuation เริ่มมีความน่าสนใจสะสม แนะนำ TOP, MTC, TIDLOR, STEC, BDMS, AOT, AAV!!
แหล่งข่าว เลือกหุ้นตามธีม, ไทยรัฐ, 14 ก.ย. 2564