ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 ส.ค.64 ปิด 1,531.24 จุด บวก 2.92 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 77,166.69 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,433.42 ล้านบาท
บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดให้น้ำหนักการพิจารณาผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจของ ศบค. แต่ในอีกด้าน
จำนวนผู้ติดเชื้ออาจมีแนวโน้มเพิ่มต่อไป หลังกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้ 1.ถ้าไม่มี Lockdown จำนวนผู้ติดเชื้อในช่วงปลายเดือน ส.ค.-ต้น ก.ย.64 จะอยู่ในระดับ 60,000-70,000 ราย/วัน 2.ถ้ามีการ Lockdown ที่มีประสิทธิภาพที่ 20% (ปัจจุบัน) จะมีผู้ติดเชื้อ 45,000 ราย/วัน ในช่วงต้น-กลาง ก.ย. 3.ถ้ามีการ Lockdown ที่มีประสิทธิภาพที่ 25% และเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงจะมีผู้ติดเชื้อ 20,000 ราย/วัน ในช่วงต้น-กลาง ก.ย.64
หากสถานการณ์เป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขคาดไว้ เอเซียพลัสมองว่าโอกาสเกิดสัญญาณซื้อ จากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงกว่าจำนวนผู้รักษาหาย อย่างมีนัยสำคัญ จะถูกเลื่อนออกไปอีก เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะพลิกกลับมา Outperform ถูกเลื่อนออกไปเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นถูกสภาพคล่องส่วนเกินผลักดันดัชนีหุ้นโลก ณ ปัจจุบัน ขึ้นมาสูงกว่าช่วงก่อน Covid มาก (ประมาณ 1 ปี 7 เดือน) อีกทั้งยังส่งผลให้ระดับการซื้อขายบน Tailing P/E แพงขึ้นกว่าในอดีตมาก ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวขึ้นมาอยู่ใกล้ๆกับช่วงก่อนเกิด Covid โดยปรับตัวลง 2.8% และ P/E ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน แพงขึ้นกว่าในอดีตมากถึง 5 เท่า มาอยู่ที่ 23.6 เท่า (ในอดีตซื้อขายกันบน P/E เฉลี่ย 19 เท่า)
ในยามที่ตลาดหุ้นซื้อขายบน P/E ที่แพงขึ้น แต่ทางข้างหน้ายังเจออุปสรรค Covid ระบาดรอบใหม่ (กดดันกำไรลดลง) และความเสี่ยงสภาพคล่องที่หนุนระบบเริ่มจำกัด จากการพิจารณาลดระดับ QE ส่งผลให้หุ้นที่มีค่า P/E สูงจะมีความเสี่ยงในการปรับฐานมากกว่า
แนะนำลดการลงทุนในหุ้นที่มี P/E สูง แต่หันกลับมาเลือกหุ้นใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่ง และมี P/E ต่ำ น่าจะปลอดภัยกว่า โดยฝ่ายวิจัยฯทำการคัดกรองหุ้นดังกล่าว โดยผ่านเงื่อนไขดังนี้ 1.P/E < 15 เท่า (ไม่แพง) 2.มีปันผล (ผันผวนน้อย) 3.Market Cap > 1 หมื่นล้านบาท (มีขนาดกลาง-ใหญ่) 4.แนะนำ “ซื้อ” และมี Upside (พื้นฐานแข็งแกร่ง)
ได้ผลลัพธ์ หุ้นกลางใหญ่ P/E ต่ำ ที่น่าสนใจ 13 บริษัท ดังนี้ STA–STGT–AP–SPALI–NER–CPF–TVO–EGCO–RATCH– PTT–LH–BLA!!
แหล่งข่าว เลือกหุ้นแข็งแกร่ง, ไทยรัฐ, 17 ส.ค. 2564